กลุ่มผู้เสียหายจากการกู้สินเชื่อเพื่อซื้อรถสามล้อเครื่องในโครงการ ‘สามล้อเอื้ออาทร’ และกลุ่มผู้เสียหายที่กู้เงินกับสหกรณ์บริการจักรเพชร ยื่นหนังสือเพื่อถามถึงความคืบหน้าคดี รวมทั้งขอให้เร่งรัดคดีและแจ้งข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ด้านผู้บังคับการ บช.ก. และรองผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐานกลาง สตช. รับปากจะเร่งดำเนินคดีให้โดยเร็ว
จากการที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปราม เรื่องพฤติการณ์ของสหกรณ์บริการจักรเพชร กรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ฯ ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาเยาวราชและสาขาสยามพารากอน ที่มีการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนกรณีที่มีผู้ได้รับความเสียหายจากการกู้สินเชื่อเพื่อซื้อรถสามล้อเครื่องในโครงการ ‘สามล้อเอื้ออาทร’ และกองปราบปรามแจ้งกลับมาว่าได้เสนอเรื่องไปยังผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าของคดีความดังกล่าวนั้น
ล่าสุด (26 มิถุนายน 2562) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มพบ. พร้อมกลุ่มผู้เสียหายจากการกู้สินเชื่อเพื่อซื้อรถสามล้อเครื่องในโครงการ ‘สามล้อเอื้ออาทร’ รวมทั้งผู้เสียหายในกรณีเดียวกัน ทั้งกลุ่มผู้เสียหายรถเมล์ร่วมบริการสาย 1, 17, 39 และ 75 กลุ่มผู้เสียหายเรือหางยาว และกลุ่มผู้เสียหายตลาดหมอชิตและปากคลองตลาด จำนวน 100 กว่าราย เข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อขอให้เร่งรัดรัดคดีและแจ้งพฤติการณ์และข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมทั้งได้ยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่และเร่งรัดการดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชนตัวแทนผู้เสียหาย, นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค และพล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการอำนวยการ บช.ก.
พ.ต.อ.ยุทธนา จอนขุน รองผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐานกลาง สตช. และนางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค
นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มพบ. กล่าวว่า หลังจากที่ไปยื่นหนังสือเรื่องที่กองปราบปรามฯ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 และมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมไปอีกเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 จากนั้นทางมูลนิธิฯ ได้มีการสอบถามถึงเรื่องความคืบหน้าของคดีความกับกองปราบปราม มาโดยตลอด และได้รับคำตอบเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่าคดีความดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ดังนั้น วันนี้จึงนำกลุ่มผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการเข้าไปซื้อรถสามล้อในโครงการสามล้อเอื้ออาทรและกลุ่มผู้เสียหายที่เข้าไปกู้เงินกับสหกรณ์ฯ มายื่นหนังสือเพิ่มเติมที่ บช.ก. เพื่อที่จะได้ทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อที่จะมีการพิจารณาได้ว่าคดีดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ โดยมีการแจ้งข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ได้แก่ 1. มีพฤติการณ์หลอกให้ทำสัญญากู้ 2 ฉบับ เพื่อซื้อรถ 1 คัน หรือ ซ่อมแซมรถยนต์ หรือ กู้ยืมเงิน และ 2. ไม่ได้รับเงินกู้ หรือ ได้รับเงินกู้ไม่เต็มตามสัญญากู้ยืมเงิน
นางนฤมล กล่าวอีกว่า มีความคาดหวังกับผู้บัญชาการ บช.ก. ว่าจะสามารถที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้รวดเร็วได้หรือไม่ และท้ายที่สุดก็ได้รับคำตอบจาก พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการอำนวยการ บช.ก. แจ้งไว้ว่าจะดำเนินการคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ได้มายื่นหนังสือ กับ พ.ต.อ.ยุทธนา จอนขุน รองผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐานกลาง สตช. โดยได้ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่และเร่งรัดการดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกับผู้บังคับการ บช.ก. ว่าจะเร่งรัดการดำเนินคดีและจะมีการพิจารณาให้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย
“ในวันนี้กลุ่มผู้เสียหายได้รับคำตอบจากหน่วยงาน รวมทั้งยังมีความคาดหวังในเรื่องของคดีความและผู้กระทำความผิดว่าจะได้รับการลงโทษเมื่อใด นอกจากนี้ยังทราบมาว่าขณะนี้ธนาคารออมสินอยู่ในระหว่างการประชุมกรรมการ จึงอยากฝากถึงให้มีการพิจารณาเรื่องการถอนฟ้องให้เร็วขึ้นอีกด้วย” นางนฤมลกล่าว
อย่างไรก็ตาม มูลนิธิฯ หวังว่าคดีจะมีความคืบหน้าในเร็ววัน แต่หากยังไม่มีความคืบหน้า ก็จะมีการมาติดตามต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- กลุ่มตุ๊กตุ๊กกว่า 40 ราย ร้อง มพบ. เหตุถูกฟ้องคดีไม่เป็นธรรม
- มพบ. ร้องกองปราบฯ คดีฉ้อโกง ‘ตุ๊กตุ๊ก’ กว่า 100 ราย
- 'ออมสิน' รับปากยื่นขอชะลอการฟ้องและบังคับคดี 'ตุ๊กตุ๊ก' พร้อมนัดฟังคำตอบ 15 ม.ค. 62
- 'ออมสิน' รับข้อเสนอ 'มพบ.' ให้กลุ่มผู้เสียหายจ่ายหนี้ตามจริง