AISฟ้องกทช.ไม่เป็นธรรม หลังห้ามตัดสัญญาณผู้ใช้มือถือเติมเงิน

พ.อ.ดร. นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ กทช.เพิกถอนประกาศเรื่องมาตรฐานสัญญาให้บริการโทร คมนาคม ข้อ 11 ที่ห้ามกำหนดวันหมดอายุระบบเติมเงิน (พรีเพด) หรือประกาศที่ห้ามผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ ในกรณีที่อายุวันบัตรเติมเงินหมด แต่เงินในบัตรยังไม่หมด อย่างไรก็ดีถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์ที่ได้รับผลกระทบ จะยื่นฟ้องต่อศาลฯ

"เรื่องที่ห้ามกำหนดวันหมดอายุระบบเติมเงินนั้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระยะเวลาที่กำหนด แต่อยู่ที่ไม่มีการกำหนดขั้นตอนวิธีการคืนเงินที่เหลืออยู่ในบัตร ซึ่งขั้นตอนนี้ผู้ประกอบการต้องเป็นผู้ริเริ่มการจัดทำขั้นตอนให้ผู้ใช้ บริการขอคืนเงินได้" พ.อ.ดร.นที กล่าว

ในส่วน กทช.ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช. ยังต้องทำเรื่องนี้ต่อไปคือ ต่อสู้กับคดีความที่ถูก เอไอเอส ฟ้อง โดยยืนยันว่าเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยเหตุผล ส่วนประกาศที่ออกไปแล้ว สำนักงาน กสทช.ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อผู้ให้บริการโทรศัพท์ไม่ปฏิบัติตาม ก็ต้องส่งหนังสือแจ้งเตือน จนถึงคิดค่าปรับ หรือจนกว่าศาลฯจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นออกมา

มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา เครือข่ายผู้บริโภค นำโดย นายกำชัย น้อยบรรจง ผู้ประสานงานศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมจ.สระบุรี พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรเครือข่ายผู้บริโภค เข้าพบ พ.อ. ดร. นที เพื่อให้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปฏิบัติตามประกาศของ กทช.ด้วย

มีรายงานข่าวจาก สำนักงานเลขาธิการ กสทช.แจ้งว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มีจำนวน 71 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นผู้ใช้มือถือแบบจดทะเบียนจ่ายค่าบริการรายเดือน(โพสต์เพด) 7.3 ล้านเลขหมาย และใช้ระบบเติมเงิน(พรีเพด) จำนวน 63.7 ล้านเลขหมาย

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน