เตือน ผู้บริโภคระวังยุทธการแจกซิมเรียกลูกค้าในยุค๓G

คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เตือน ผู้บริโภค๓G ระวัง   ยุทธการแจกซิมเรียกลูกค้า  เพราะซิมฟรีไม่มีจริง แต่เป็นการสมัครใช้บริการรายเดือน ถึงไม่ใช้ก็ถูกเรียกเก็บเงิน   พร้อม ชม ไอ-โมบาย รับผิดชอบและลงโทษตัวแทนจำหน่ายหากพบว่ามีการให้ข้อมูลไม่ถูกต้องกับผู้ใช้บริการ

 

 

นางสาวสารี  อ๋องสมหวัง  ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมเปิดเผยว่า  จากกรณีเรื่องร้องเรียนการได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องไม่ครบถ้วนซึ่งเป็นเรื่องร้องเรียนอันดับ ๕ ของปัญหาโทรคมนาคมนั้น ซึ่งพบว่า ปัญหาสำคัญมาจากแนวทางการทำการตลาดของผู้ให้บริการที่ใช้วิธีแจกซิมฟรีเป็นยุทธวิธีในการหาลูกค้าใหม่ของบริษัท  ซึ่งในยุคที่เป็นการให้บริการ ๓G  หากผู้ให้บริการยังใช้วิธีนี้ในการส่งเสริมการตลาดก็จะทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้หนักขึ้น

“เราจะพบเห็นได้เป็นการทั่วไป ในย่านชุมชน เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  สนามบิน ตลาดนัด ตามหัวเมืองสำคัญต่างๆ โดยมักให้ข้อมูลกับผู้บริโภคเพียงว่า แจกซิมฟรีไม่เสียเงิน แต่ต้องใช้บัตรประชาชนและเซ็นชื่อในสัญญา หลังจากนั้น ๑ เดือน แม้ว่าจะไม่ใช้บริการก็จะได้รับใบเรียกเก็บเงินไปที่บ้าน ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่รู้จักเรา ก็ร้องเรียนมายังโทรฟรี ๑๒๐๐ แต่หากไม่ร้องเรียน ก็เท่ากับว่า ต้องเสียเงินให้กับบริการที่ไม่ได้ใช้ เพราะเพียงแต่ไปรับซิมที่คิดว่าฟรีมาเท่านั้น และเท่าที่ทราบผู้ใช้บริการ ๓ ราย ได้ขอเลขหมายจากสำนักงาน กสทช. อีกจำนวน ๒๐ ล้านเลขหมายเพื่อการให้บริการ ๓G  หากผู้ให้บริการยังใช้วิธีการทำตลาดแบบเดิม ปัญหาก็จะตกมาถึงผู้บริโภคไม่ต่างจากเดิม” นางสาวสารีกล่าว

ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมกล่าวต่อไปว่า  ตามกฎหมาย โทรคมนาคม สัญญาจะเกิดขึ้นได้ เมื่อทั้งสองฝ่ายได้แสดงเจตนาเสนอสนองถูกต้องตรงกัน แต่การรับซิมการ์ดฟรีนั้น ผู้ใช้บริการไม่ได้มีเจตนาที่จะทำสัญญาใช้บริการ เพียงแต่มอบสำเนาบัตรประชาชนให้ไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการประกอบรับซิมการ์ดแจกฟรีเท่านั้น จึงไม่เกิดสัญญาการใช้บริการ รวมถึง ผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องแจ้งรายละเอียดของการให้บริการโทรคมนาคมในแต่ละบริการอย่างชัดเจนและครบถ้วน ทั้งค่าบริการ วิธีเรียกเก็บค่าบริการ เงื่อนไขการให้บริการ ดังนั้น การที่ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทให้ข้อมูลว่า ซิมการ์ดแจกฟรีนั้น หากไม่ใช้ไม่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น จึงเป็นการให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง และปิดบังข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ

“ผู้ให้บริการทุกรายไม่ควรใช้ยุทธวิธีเช่นนี้ในการทำการตลาดกับผู้บริโภค และผู้ให้บริการควรกำชับตัวแทนจำหน่ายให้แจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจนแก่ผู้บริโภค ขณะเดียวกันผู้บริโภคต้องระมัดระวังในการรับซิมฟรี ควรสอบถามให้ชัดจน เพราะหากเป็นการให้สำเนาบัตรประชาชนจะเป็นการสมัครใช้บริการแบบรายเดือน ที่จะถูกเรียกเก็บค่าบริการ ซึ่งหากพบกรณีเช่นนี้ขอให้ร้องเรียนที่เบอร์โทรฟรี ๑๒๐๐ “ นางสาวสารีกล่าว

นางสาวสารี กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องร้องเรียนที่เข้ามายัง สำนักงาน กสทช. นั้นพบว่า บริษัท ไอ-โมบายพลัส จำกัด มีความรับผิดชอบและมีมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ใช้บริการอย่างดี โดยเมื่อบริษัทตรวจสอบพบว่า มีการให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่ชัดเจน และผู้บริโภคไม่มีการใช้บริการจริง บริษัทจะดำเนินการยกเลิกการให้บริการ และยุติการเรียกเก็บค่าบริการทั้งหมด รวมทั้งบริษัทยังมีมาตรการดำเนินการลงโทษตัวแทนจำหน่ายของบริษัทที่มีการให้ข้อมูลไม่ถูกต้องกับผู้บริโภคด้วย ขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่นๆ ยังไม่มีมาตรการใดใดในการแก้ไขปัญหานี้

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ ม.ค-๑๔ ธ.ค.๕๕  มีจำนวนเรื่องร้องเรียนกรณีแจกซิมฟรีจำนวน ๑๗๙ กรณี เป็นของบริษัทเรียลมูฟ หรือทรูมูฟ เอช จำนวน ๙๑ เรื่อง  บริษัทไอโมบายพลัส จำกัด จำนวน ๗๔ เรื่อง บริษัท ทรูมูฟ จำกัด จำนวน ๑๐ เรื่อง บมจ. โทเทิ่ล แอ็ดเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด จำนวน ๓ เรื่อง บริษัท แอดวาน อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด จำนวน ๑ เรื่อง

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน