เร่งปฏิรูปสื่อปลดล็อกวิทยุชุมชน

ปัญหาวิทยุชุมชน ที่กำลังเป็นหนามยอกอกรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ เป็นผลพวงจากนักการเมืองเองที่ไม่จริงจังกับการ "ปฏิรูปสื่อ" ทำให้เกิดวิทยุชุมชนกลายพ

หาก เหตุการณ์บ้านเมืองปกติ ผลกระทบก็อาจไม่รุนแรงเหมือนที่เป็นอยู่ในยามนี้ แต่การที่การเมืองยุ่งเหยิงแบ่งฝักแบ่งฝ่าย การใช้สื่อวิทยุชุมชน จึงดุเด็ดเผ็ดร้อน บางสถานี บางคลื่นใช้วิทยุชุมชนผิดไปจากสิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจผิด ต่างๆ นานา

 

เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ข่าวเรื่องนี้ ว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญคณะอนุกรรมการกิจการกระจายเสียง ซึ่งเป็นอนุกรรมการที่กรมประชาสัมพันธ์ตั้งร่วมกับคณะกรรมการโทรคม ( กทช.) เพื่อรับทราบข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวทางในการดำเนินการและจะมอบข้อมูลเกี่ยวกับวิทยุชุมชนที่ดำเนินการใน ลักษณะที่เป็นการละเมิดสิทธิบุคคลอื่น รวมถึงการใช้สิทธิที่ผิดไปจากที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ให้อนุกรรมการชุดนี้ไปจัดการ

 

พร้อมให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส หากพบว่าสถานีวิทยุชุมชนใด มีการดำเนินการที่ผิดไปจากสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ก็สามารถบันทึกเทปและส่งมาที่ทำเนียบรัฐบาลได้ เพื่อมอบให้อนุกรรมการไปดำเนินการ

 

หมายความว่า ทางรัฐมนตรีกำลังบอกให้ กทช. กับกรมประชาฯ ซึ่ง มีคณะอนุกรรมการว่าด้วยเรื่องนี้ เร่งทำงาน หลังจากมีการจัดตั้ง ตามบทเฉพาะกาล ของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์

 

แต่จะเอาผิดแบบถอนรากถอนโคนนั้นอาจจะยังทำได้ไม่มากนัก เพราะต้องใช้กฎหมายอื่น จัดการ เช่น กฎหมายอาญา ซึ่งจะเอาผิดถึงขนาดปิดสถานีวิทยุชุมชนได้หรือไม่ นั้น ยังคงต้องพิสูจน์การทำงานของคณะอนุกรรมการดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม หากคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว จัดการขั้นเด็ดขาดตามระเบียบที่จะออกมาในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งวิทยุชุมชนที่จะได้รับใบอนุญาตตามกฎใหม่นี้จะต้องไม่มีโฆษณา

 

นี่คือเงื่อนปมใหม่ที่วิทยุชุมชนจะออกมาประท้วงรัฐบาล เนื่องจาก เกือบทุกสถานี มีโฆษณา และเมื่อยังมีการดื้อดึงออกอากาศ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ถึงเวลานั้น รัฐบาลจะจัดการอย่างไร

 

และการจะจัดระเบียบวิทยุชุมชนทั้งหมดได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่า การใช้อำนาจตามกฎหมายประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ นั้น คงจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด

 

รัฐบาลต้องเร่งออกกฎหมาย องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียงและโทรคมนาคม เพราะเป็นกฎหมายโดยตรง เพื่อจัดตั้ง องค์กรอิสระ ที่เรียกว่า องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุโทรทัศน์และโทรคมนาคม ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติไว้ว่า ให้มีการจัดตั้งองค์กรหนึ่งที่ทำหน้าที่จัดสรรคลื่นทั้ง บรอดแคสติ้ง และ โทรคมนาคม ซึ่งอาจใช้ชื่อ ว่า กสทช. จากเดิม รัฐธรรมนูญ 2540 ให้ตั้ง 2 องค์กร คือ กสช. และ กทช. แต่ขณะนี้มีแค่ กทช. ส่วน กสช. นั้น ยังไม่สามารถจัดตั้งได้ เพราะมีปัญหาเรื่องของการฟ้องร้องจากผู้ที่อ้างว่าการสรรหาไม่โปร่งใส ทำให้การจัดตั้ง กสช. ยืดเยื้อมา 8-9 ปี และ กลาย เป็นเงื่อนตายของการจัดสรรคลื่นความถี่และการกำกับกิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรคมนาคมมาตลอด

หากรัฐบาลนี้เร่งทำคลอดกฎหมายและตั้ง กสทช.ให้ได้ภายในปีนี้ การปฏิรูปสื่อก็จะเกิดขึ้น และปัญหาวิทยุชุมชนก็อยู่ในกรอบนี้เช่นกัน ถึงเวลานั้นบ้านเมืองอาจสงบขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้ 

 

- สำนักข่าวเนชั่น  29/1/52

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน