เครือข่ายผู้บริโภค ภาคอีสาน “รุก” ทำพีอาร์ให้ผู้บริโภคใช้สิทธิตนเอง

เครือข่ายฯ ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม เดินหน้าให้ข้อมูลข่าวสารกับผู้บริโภค เน้นให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ปกป้องสิทธิของตนเอง มพบ.แนะช่องทางกระจายข้อมูลให้ทั่วถึง

Consumerthai - วานนี้ (3 ธ.ค.) เป็นวันสุดท้ายของการลงพื้นที่สนับสนุนศักยภาพศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมคณะเดินทางยังเครือข่ายผู้บริโภค จ.ร้อยเอ็ด และเครือข่ายพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค จ.มหาสารคาม เพื่อรับฟังปัญหา ผลการดำเนินงาน รวมถึงเสนอแนะแนวทางการเพิ่มศักยภาพ

สำหรับเครือข่ายผู้บริโภค จ.ร้อยเอ็ด นางอาภรณ์ อะทาโส ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวถึงบทบาทของเครือข่ายฯ ว่า ทางเครือข่ายฯ ให้ความรู้ในการปกป้องสิทธิของคนในพื้นที่ ให้คำปรึกษาแนะนำ และแก้ปัญหาร่วมกับผู้บริโภค ส่วนเป้าหมายการทำงานจะมุ่งให้คนรับรู้ข้อมูลรู้จักปกป้องสิทธิของตนเอง และต้องการให้นักวิชาการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นภาคีในการทำงาน

นายประยูร ดีพลงาน ประธานเครือข่ายฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ต้องการให้ผู้ประกอบการไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ควรรู้จักรักษาสิทธิของตนเองด้วย นอกจากนี้ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนเรื่องงบประมาณ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความสะดวก

ขณะที่เครือข่ายพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค จ.มหาสารคาม นางจรรยา แสนสุภา ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคที่เดือดร้อนถือเป็นความสำเร็จในการดำเนินงานของเครือข่ายฯ โดยจะติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการรับรู้เรื่องร้องเรียนนั้นจะมาจากการจัดเวทีในชุมชน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องบัตรเติมเงินโทรศัพท์และสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ

ทั้งนี้นายบุญเลิศ สดสุชาติ ประธานเครือข่ายฯ กล่าวเสริมถึงปัญหาผู้บริโภคว่า คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิในการเรียกร้อง และเมื่อมีปัญหาก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขหรือไปร้องเรียนที่ไหน ดังนั้นทางเครือข่ายฯ จึงให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดอบรมให้แกนนำ การประชาสัมพันธ์ข่าวสารตามสื่อวิทยุ ฯลฯ ที่สำคัญจะเน้นการให้ความรู้ ความเข้าใจกับเด็กนักเรียนตามสถานศึกษา เพื่อนำไปสื่อสารกับผู้ปกครองได้

เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้คนรับรู้ว่า สามารถทำได้หลายทิศทางโดยอาจใช้โอกาสต่างๆ เช่น งานเทศกาลของจังหวัด งานหมอลำ หรืองานที่มีคนจำนวนมาก เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูล แจกใบความรู้ ฯลฯ นอกจากนี้สามารถทำใบแทรกในหนังสือพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ได้ สิ่งสำคัญคือ การทำงานของทีมงานต้องเข้มแข็ง

ข่าว: พนิดา ถุงปัญญา
ภาพ: เพ็ญพิชชา เขียวพอ

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน