ยื่นฟ้องสนง. และคกก. สลากกินแบ่งรัฐบาล ให้เพิกถอนมติการพิมพ์สลากฯ เพิ่ม และให้ควบคุมการขายเกินราคา

pic 211261 lotterylottery

มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ฟ้องคดี สนง. สลากกินแบ่งรัฐบาล และคกก. สลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนมติการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่ม และให้ควบคุมการจำหน่ายสลากเกินราคาด้วยวิธีอื่นแทน 

          วันที่ 21 ธันวาคม 2561 เวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครองกลาง มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (1) และทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยื่นฟ้องคดีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนมติการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่ม และให้ควบคุมการจำหน่ายสลากเกินราคาด้วยวิธีอื่นแทน อีกทั้งเพื่อปกป้องคุ้มครองสังคมจากผลกระทบจากการพนัน

          ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2558 - 2561 คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติให้เพิ่มการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลหลายครั้ง โดยอ้างว่าปัญหาสลากฯ แพงมีสาเหตุมาจากสลากฯ ไม่เพียงพอกับความต้องการซื้อ - ขายในตลาด ทำให้มีการเพิ่มการพิมพ์สลากฯ รวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง จากจำนวนเดิม 38 ล้านฉบับ เป็น 90 ล้านฉบับ คิดเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 53 ล้านฉบับ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 143.24 แต่วิธีการดังกล่าวไม่เป็นผล และไม่สามารถทำให้ราคาการจำหน่ายสลากฯ เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คือ 80 บาทได้ ขณะเดียวกันยังมีผลกระทบโดยตรงต่อการซื้อสลากของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

          จากรายงานการสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2559 หลังพิมพ์สลากฯ เพิ่มเป็น 71 ล้านฉบับ พบว่า ผู้บริโภคยังคงต้องซื้อสลากฯ ในราคาแพงในทุกสถานที่ โดยราคาสูงสุดที่พบอยู่ที่ใบละ 150 บาท นอกจากนี้การพิมพ์สลากฯ เพิ่มส่งผลให้มีการจำหน่ายสลากรวมชุดเพิ่มมากขึ้นและจำหน่ายในราคาที่เกินกว่า 80 บาท โดยเฉลี่ยอย่างน้อยฉบับละ 100 บาท

          ในขณะที่รายงานการสำรวจสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 จากศูนย์ศึกษาฯ พบว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลกลายเป็นการพนันที่ประชาชนเล่นมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คือ มีผู้เล่นพนันสลากฯ ทั้งสิ้น 21,404,134 คน เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปี 2558 ร้อยละ 12.4 หรือ 2.356 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้เล่นสลากหน้าใหม่ที่ไม่เคยเป็นผู้ซื้อสลากฯ มาก่อนถึง 434,484 คน และประมาณการณ์ว่ามีเด็กและเยาวชนอายุตั้งแต่ 15 - 25 ปี เป็นผู้ซื้อสลากฯ ถึง 2,085,000 บาท โดยเป็นเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นผู้ซื้อสลาก 136,900 คน

          อีกทั้ง เมื่อพิจารณาจากบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วไม่พบว่ามีกฎหมาย ข้อกำหนด หรือระเบียบใดๆ ให้อำนาจแก่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลในการมีมติเพิ่มจำนวนสลากฯ รวมถึงในการพิมพ์ออกสลากกาชาดพิเศษ (การออกสลากกินแบ่งเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ) ในปี ๒๕๕๒ หรือการมีมติเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ในปี 2555 จำเป็นจะต้องขอออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้ระหว่างปี 2558 - 2560 คณะรัฐมนตรีได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่มจำนวน 9 ครั้ง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากข้อสั่งการของหัวหน้า คสช. และมติของคณะรัฐมนตรีทั้งหมดที่กล่าวมาไม่พบว่ามีข้อสั่งการหรือมติใดๆ ในการให้พิมพ์สลากเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาสลากฯ เกินราคา การพิมพ์สลากเพิ่มกว่าร้อยละ 100 ทำให้ประชาชนเล่นพนันสลากมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่เด็กและเยาวชน รวมกับการขายเกินราคาที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 58 (2)

          จากที่กล่าวมาแสดงให้เห็นถึงการกระทำอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลในการมีมติให้พิมพ์เพิ่มสลากฯ เพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจ ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 (3)

          อย่างไรก็ตาม การฟ้องคดีนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยทั้งประเทศที่จะได้รับการคุ้มครองไม่ให้หลงมอมเมาในการพนันดังกล่าว จนส่งผลเสียทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และประเทศชาติ จากการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ถูกฟ้องคดีที่มุ่งแต่ผลกำไร โดยไม่คำนึงถึงความชอบด้วยกฎหมายของการกระทำดังกล่าว จึงเป็นการฟ้องคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะส่วนรวม

          ทั้งนี้ การฟ้องคดีครั้งนี้ เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินการพิมพ์สลากฯ เพิ่มทั้งหมด และขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินการควบคุมไม่ให้มีการขายสลากฯ เกินราคาโดยวิธีที่ชอบด้วยกฎหมายแทนการพิมพ์สลากฯ เพิ่ม

 

 

(1) ‘มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน’ เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายจัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 ประเภทมูลนิธิ มีวัตถุประสงค์รณรงค์สร้างกระแสความตื่นตัวทางสังคมให้ตระหนักถึงโทษภัยของการพนัน ผลักดันนโยบายสาธารณะ เพื่อการปกป้องคุ้มครองสังคมจากผลกระทบจากการพนัน

(2) บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 58 ระบุว่า การดําเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตให้ผู้ใดดําเนินการ ถ้าการนั้นอาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียสําคัญอื่นใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รัฐต้องดําเนินการให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนหรือชุมชน และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนและชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อนํามาประกอบการพิจารณาดําเนินการหรืออนุญาตตามที่กฎหมายบัญญัติ บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิได้รับข้อมูล คําชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานของรัฐก่อนการดําเนินการหรืออนุญาตตามวรรคหนึ่ง ในการดําเนินการหรืออนุญาตตามวรรคหนึ่ง รัฐต้องระมัดระวังให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ชุมชน สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพน้อยที่สุด และต้องดําเนินการให้มีการเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้แก่ประชาชนหรือชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรมและโดยไม่ชักช้า

(3) มาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542  ระบุว่า คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ คำสั่งหรือการกระทำอื่นใดเนื่องจากกระทำโดยไม่มีอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือโดยไม่ถูกต้องตำมรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสำระสำคัญที่กำหนดไว้สำหรับกำรกระทำนั้น หรือโดยไม่สุจริต หรือมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร หรือเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ

 

Tags: สลากกินแบ่งรัฐบาล , มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน, หวย

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน