สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา เตือนผู้บริโภคผลิตและใช้น้ำหมักชีวภาพอย่างปลอดภัย

นายฉลอง อัครชิโนเรศ นักวิชาการสาธารณสุข (ด้านส่งเสริมพัฒนา) ระดับเชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนนิยมบริโภคน้ำหมักชีวภาพกันมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่ารักษาโรคต่างๆ ได้จริง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มะเร็ง ลดน้ำหนัก ขับสารพิษ เป็นต้น การใช้น้ำหมักอย่างไม่ถูกวิธีทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ เช่น กรณีผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่นำน้ำหมักที่หมักเองมาล้างแผลทำให้ติดเชื้อ โรครุนแรง หรือผู้ป่วยบางรายนำไปหยอดรักษาโรคตาจนเกิดอาการตาอักเสบ

นอกจากนี้ การรับประทานน้ำหมักร่วมกับยาอื่น อาจส่งผลต่อยาที่ใช้ร่วมได้ เช่น น้ำหมักที่มีฤทธิ์ช่วยระบาย จะเพิ่มการบีบตัวของลำไส้ทำให้ยาดูดซึมได้น้อยลง หรือน้ำหมักซึ่งมีความเป็นกรดสูงจะทำให้ยา กลุ่มเพนิซิลลินหมดฤทธิ์ก่อนให้ผลในการรักษา

ทั้งนี้น้ำหมักชีวภาพหรือน้ำเอนไซม์ ถือเป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยนำพืช ผัก ผลไม้ ที่มีคุณประโยชน์ตามที่ต้องการ มาคัดเลือกให้ได้วัตถุดิบที่ดี นำมาผ่านกระบวนการหมัก ลักษณะของน้ำหมักที่ดีตามมาตรฐาน จะต้องไม่พบสิ่งแปลกปลอม เช่น เส้นผม ขนสัตว์ ดิน ทราย กรวด ชิ้นส่วนหรือสิ่งปฏิกูลจากสัตว์ ความเป็นกรดด่างไม่เกิน 4.3 ปริมาณเอทิลของแอลกอฮอล์และเมทิลแอลกอฮอล์ต้องไม่เกินมาตรฐานกำหนด และไม่มีการปนเปื้อนจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคได้

ดังนั้น ผู้บริโภคที่ต้องการหมักน้ำหมักเพื่อบริโภคเอง ควรศึกษาวิธีการผลิตให้เข้าใจก่อน หากต้องการซื้อมารับประทาน ควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ สถานที่ผลิตสะอาดและมีสุขลักษณะที่ดีในการผลิต ผลิตภัณฑ์ควรบรรจุในภาชนะสะอาดและปิดสนิท เพื่อความมั่นใจควรสังเกตฉลากว่าได้รับอนุญาตจาก อย.หรือไม่ และไม่หลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างรักษาโรค หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน โรงพยาบาลทุกแห่ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หรือที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา โทร. 054 – 409145 - 7 ในวันเวลาราชการ
..................................................................................................................................................................

ที่มา:  ผู้สื่อข่าว : พะเยา(สวท.)   Rewriter : สุริยน ตันตราจิณ
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

วันที่ข่าว : 19 มกราคม 2555

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน