สหภาพฯ กสท ฟ้องศาลปกครอง ชี้กทช.ไม่มีอำนาจจัดสรรคลื่น 3 จี ลุ้นศาลรับฟ้องหรือไม่ 7 ก.ย.นี้ มองประกาศ กทช.เอื้อประโยชน์โอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่ ให้สิทธิ์โรมมิ่ง 3 จีมา 2 จีได้ “จิรายุทธ” ปัดไม่ใช่มติบอร์ด นายสุขุม ชื่นมะนา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา ตัวแทนสหภาพ กสท เดินทางไปยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ต่อศาลปกครองกลาง กรณีที่ กทช.จะเตรียมการเปิดประมูลใบอนุญาต (ไลเซนส์) 3 จีบนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ วันที่ 20 กันยายนนี้ เนื้องจากเห็นว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 ระบุให้จัดตั้งองค์กรอิสระในการจัดสรรคลื่นความถี่ที่เกี่ยวข้องกับกิจการ วิทยุ โทรทัศน์ โทรคมนาคม และกิจการกระจายเสียง ดังนั้น ไลเซนส์ 3 จี จำเป็นต้องรอคณะกรรมการชุดดังกล่าว กทช.ไม่มีอำนาจตามที่กล่าวอ้างและควรรอให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการกระจายวิทยุ กระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... ก่อน ซึ่งเรื่องยังอยู่ที่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
อย่างไรก็ตาม วันที่ 7 กันยายน เวลา 16.00 น. ศาลปกครองกลางจะประกาศว่าจะรับคำฟ้องดังกล่าวหรือไม่ โดยศาลปกครองได้ชี้แจงเบื้องต้นแล้วว่า ไม่สามารถเปิดไต่สวนฉุกเฉิน และคุ้มครองฉุกเฉินได้ เนื่องจากขั้นตอนการประมูล 3 จียังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น (พีคิว) จากจำนวนโอเปอเรเตอร์ที่ยื่นซอง 3 ราย ดังนั้น ขั้นตอนการประมูลยังถือว่าไม่เกิดขึ้นจริง และยังไม่มีมูลค่าความเสียหาย โดยหากศาลปกครองรับคำฟ้องก็จะเริ่มไต่สวนหลังวันที่ 20 กันยายนนี้
นอกจากนี้ มองว่า กสท จะได้รับผลกระทบเสียเปรียบคู่แข่งที่ได้ไลเซนส์ 3 จีทันที นอกจากนี้ จากประกาศ กทช.ที่ระบุห้ามไม่ให้ระบบ 2 จีโรมมิ่งมายัง 3 จี แต่ให้ 3 จีสามารถโรมมิ่งมายัง 2 จีได้ ถือเป็นการกีดกันทางการค้าอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท กล่าวยอมรับว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้มีมติให้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง และไอซีที เพื่อสอบถามว่าควรฟ้อง กทช. หรือไม่ในกรณีที่จะเปิดไลเซ่น 3 จี โดยบอร์ดมองว่า กทช.ไม่มีอำนาจจัดสรรคลื่นความถี่ที่มีอยู่แต่ถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีหนังสือ ใดๆตอบกลับมา ดังนั้น กสท ยังคงจะไม่ฟ้อง กทช. ส่วนการฟ้องศาลปกครองถือว่าเฟ้องในนามสหภาพ ไม่ใช่มติบอร์ด
ข้อมูลจาก นสพ.คมชัดลึก 04/09/53