สคบ.-ตร.เอาจริงล้างขายตรงเถื่อน

สคบ.ประสานตำรวจบก.ปคบ.เดินหน้าเอาจริง ฟันธุรกิจขายตรงเถื่อนเข้าข่าย “มันนี่เกม” ล่าสุด ยกกำลังจับ “บ.เอสดี แอดวานซ์” หลังฝ่าฝืนเปิดดำเนินธุรกิจขายตรง ไร้ใบอนุญาตจากสคบ. จ่อปรับ 1 แสนบาทต่อวันนับเป็นรายที่ 2 ในรอบปี เผยบริษัทขายตรงเถื่อนไร้ใบอนุญาตมักอาศัยเปิดออฟฟิศตามซอกหลืบหลบมุมดเจ้า หน้าที่ พร้อมระบุให้จับตาพวก “ขายซิม-กล่องสัญญาณโทรทัศน์” อาศัยช่องว่างกฎหมาย ใช้แผน MLM ดันยอดขาย



จากนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ต้องการยกระดับวงการขายตรง โดยการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆของภาครัฐ ล่าสุดเพื่อเป็นการขานรับนโยบายดังกล่าว กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของธุรกิจขายตรงและได้นำกำลังเข้า ตรวจสอบศูนย์จำหน่ายสินค้าของ บริษัท เอสดี แอดวานซ์ จำกัด ซึ่งเปิดดำเนินการที่ห้างสรรพสินค้าดังย่านลาดพร้าว หลังจากที่ได้รับการแจ้งว่า บริษัทดังกล่าวได้เปิดดำเนินธุรกิจขายตรง แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตการ ประกอบธุรกิจจาก สคบ. แต่อย่างใด และมีพฤติกรรมการดำเนินธุรกิจ เข้าข่ายเป็น “มันนี่เกม” ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค และทำผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ บก.ปคบ. พบว่า บริษัทดังกล่าวยัง ไม่ได้รับใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจจากทาง สคบ. จริง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ ได้สอบถามไปยังบริษัทดังกล่าว ก็ได้คำตอบว่าขณะนี้บริษัทอยู่ใน ระหว่างการขอใบอนุญาต และบริษัทยังไม่ได้เปิดดำเนินธุรกิจแบบเต็มตัว เพียงแค่เปิดรับสมัครสมาชิกที่สนใจเข้ามาร่วมธุรกิจ แต่ยังไม่ได้มีการจ่ายผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น บก.ปคบ. ได้มีคำสั่งให้บริษัท ดังกล่าวหยุดดำเนินกิจการไปก่อน และสามารถเปิดดำเนินธุรกิจได้เมื่อ ได้รับใบอนุญาตจาก สคบ. เป็นที่เรียบร้อย แต่หากยังฝ่าฝืนที่จะเปิด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยบริษัทจะถูกปรับเป็นเงิน 100,000 บาทต่อวัน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทขายตรงถูกจับในคดีความดังกล่าว โดยห้างดังดังกล่าวนับเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีบริษัทขายตรงแห่มาเช่าสถานที่ เพื่อประกอบธุรกิจมากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งหากนำพื้นที่ต่างๆในกรุงเทพฯ แล้วมาเช็คเรื่องของจำนวนแล้วห้างนี้นับเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่มีบริษัทขายตรงอยู่มากที่สุด จะเป็นรองก็คงมีเพียง ถนนรัชดา พื้นที่ยอดนิยมของบริษัทขายตรงเท่านั้น

โดยในช่วงก่อนหน้าที่บริษัท เอสดี แอดวานซ์ จำกัดจะถูกตำรวจ บก.ปคบ.บุกตรวจและจับกุม เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา บริษัท เยส ไอ แคน คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัดถูกกอง บก.ปคบ. บุกตรวจจับในทำนองเดียวกัน โดยที่บริษัทดังกล่าว ไม่มีใบอนุญาตรับรองจากสคบ.ในการดำเนินธุรกิจขายตรง ซึ่งทางบริษัทบอกแต่เพียงว่าอยู่ในช่วงของการขอใบอนุญาติ ซึ่งเป็นคำตอบเดียวกันกับ บริษัท เอสดี แอดวานซ์ฯ

แหล่งข่าวระดับผู้บริหารของบริษัทขายตรงผู้หนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนห้างดังกล่าว เปิดเผย “สยามธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันห้างแห่งนี้มีบริษัทขายตรงเปิดอยู่ประมาณ 30 บริษัท ซึ่งมีทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ โดยหากเทียบกับย่านรัชดายังถือน้อยกว่า ส่วนเรื่องร้องเรียน ก็น้อยกว่าแต่ด้วยพื้นที่ที่เล็กกว่าย่านรัชดาจึงทำให้ถูกมอง และเพ่งเล็ง

“รูปแบบของบริษัทขายตรงที่มักจะกลายเป็นข่าวที่ไม่ดี มักจะตั้งออฟฟิศอยู่ในพื้นที่เล็ก มีการตกแต่งออฟฟิศที่ไม่ได้ใหญ่โตโอ่อ่า อีกทั้งยากที่จะมองให้ออกว่าเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอะไร ซึ่งต้องยอมรับว่า บริษัทขายตรงที่นี้ ประมาณ 10% เป็นบริษัทขายตรงที่ก่ำกึ่งในการกระทำผิด ซึ่งเรื่องนี้คงต้องอยู่ที่ตำรวจ ว่าจะสืบเจอว่าบริษัทนั้นกระทำผิดหรือไม่อย่างไร”

แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่น่ากลัวคือ บรรดาบริษัทที่นำซิม โทรศัพท์มือถือเข้ามาขาย รวมทั้งบรรดากล่องสัญญาณโทรทัศน์ ที่เปิดดำเนินธุรกิจคล้ายธุรกิจเครือข่าย แต่ก็ไม่มีกฎหมายในการเอาผิด ซึ่งคงต้องรอดูว่าต่อไปว่า ธุรกิจเหล่านี้ จะเป็นอย่างไร

ข้อมูลจาก นสพ.สยามธุรกิจ  ประจำวันที่ 25-8-2012  ถึง 28-8-2012

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน