"กรณ์"เบรก กทช.เปิดประมูล 3 จี-ค้านเก็บภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม

นาย กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2552 ว่า รัฐบาลต้องการให้เดินหน้าโครงการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 หรือ 3จี โดยเร็ว แต่ต้องอยู่ภายใต้การแข่งขันที่เป็นธรรมและจริงจังไม่อยู่ในลักษณะผูกขาด ซึ่งหากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทช.) จะเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี ก็ต้องเป็นไปภายใต้เงื่อนไขที่กระทรวงการคลังได้ร่างหลักเกณฑ์แปรสัญญา สัมปทานให้เสร็จสิ้นในเร็วๆนี้ เพื่อล้างไพ่ให้การแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมเกิดความเป็นธรรมและเสมอภาคกับ ผู้ประกอบการทุกรายทั้งรายเก่าและรายใหม่

" แนวคิดของรัฐบาลก็เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคมส่วนรวม หากกทช.จะเดินหน้าประมูลก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่ารายได้ที่ปัจจุบันอยู่ ในรูปของสัญญาสัมปทานที่มีลูกค้าในระบบ 2จี หรือ 2.5จี ซึ่งเอกชนจ่ายค่าตอบแทนให้แก่รัฐบาลกว่า 20-30% หากเปลี่ยนเป็น 3จี แล้วต้องโอนลูกค้าไป ซึ่งรัฐได้รับส่วนแบ่งเพียง 2% เงินรายได้ที่สูญเสียไปหลักแสนล้านบาทจะทำอย่างไร คุ้มค่ากับภาษีที่รัฐบาลจะได้รับคืนหรือไม่ ซึ่งหากมีคำตอบก็ต้องเร่งเสนอครม.เศรษฐกิจต่อไป"นายกรณ์กล่าว


นาย กรณ์กล่าวต่อว่า เมื่อปี 2543 รัฐบาล ซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์พยายามที่จะแปรสัญญาสัมปทานแต่ก็มีการเตะถ่วงมา โดยตลอด จนมาถึงรัฐบาลต่อมาก็ยังไม่ดำเนินการ ทั้งยังไปแก้ไขสัญญาสัมปทานที่เอื้อต่อบริษัทเอกชนคู่สัญญา ซึ่งกรณีนี้มีความชัดเจนเป็นอย่างยิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตี ความมาแล้วว่าขัดต่อกฎหมายและพ.ร.บ.ร่วมทุนปี 35 อย่างชัดเจน


" สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือจะหาวิธีแปรสัญญาสัมปทานอย่างไรก่อนประมูล 3จี ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน)และกทช.ไม่ยอมแก้ปมปัญหาต้นเรื่องก่อนที่จะเริ่มเรื่องใหม่จึง ทำให้เรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลักการก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนักเพียงแต่ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าจะแปร สัญญาสัมปทานและเปิดประมูล 3จีอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมต่อรัฐบาล ผู้ประกอบการและประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมที่ทำให้รัฐบาลเสีย เปรียบเอกชน"นายกรณ์กล่าว


สำหรับ กรณีการจะเดินหน้าลงทุน 3จีของบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) นายกรณ์กล่าวว่า  ที่ผ่านมา ยังไม่เคยเห็นแผนธุรกิจว่าจะเดินหน้าอย่างไร จะนำเม็ดเงิน 2 หมื่นล้านบาทมาจากที่ไหน แผนการกู้หนี้เป็นอย่างไร ขณะที่กทช.แม้เป็นองค์กรอิสระ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง เป็นเรื่องที่ดีแต่ต้องไม่เป็นอิสระจากผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
 เวลา 17:51:40 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

พิมพ์ อีเมล