ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาคดีประวัติศาสตร์ข้อหาละเมิด ทำคลอด-เด็กพิการ

805405 n

วันนี้ 11 ธันวาคม 2557 เวลา 09.30 น. ที่ศาลแพ่งรัชดา นางปรียานันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ได้เข้ารับฟังคำสั่งศาลฎีกา คดีฟ้อง รพ.พญาไท 1, พญ.บรรยงค์ มังคละวิรัช, นพ.สันติ สุทธิพินทะวงศ์ ข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหาย 57 ล้านบาท

ศาลฎีกามีคำสั่ง ไม่รับฎีกา ด้วยเหตุทนายไม่ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาภายใน 30 วันในคดีผู้บริโภค เมื่อศาลชั้นต้น+อุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง คดีจะสิ้นสุด ยกเว้นโจทก์จะยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องแนบคำร้องขออนุญาตฎีกาไปพร้อมกับฎีกา ภายใน 30 วัน

ซึ่งคดีดังกล่าวประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ชี้แจงว่า "1.ดิฉันกับลูกฟ้องรพ.พญาไท 1 กับพวก 2.ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง-ฟ้องซ้ำและหมดอายุความ 3.ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน-ไม่ฟ้องซ้ำแต่หมดอายุความ
4.ทนายดิฉันยื่นฎีกาโดยไม่แนบคำร้องขออนุญาตฎีกา-ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกา 5.ทนายดิฉันยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา-ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง 6.ทนายดิฉันยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาและไม่รับคำร้องขออนุญาตฎีกา
วันนี้นอกจากศาลฎีกา จะยกคำร้องขออนุญาตฎีกาและไม่รับฎีกาของดิฉันแล้ว ยังบอกอีกว่าศาลฎีกาเท่านั้นที่มีอำนาจในการพิจารณาสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ฎีกา และรับหรือไม่รับฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาและยกคำร้องขออนุญาตฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบ จึงยกคำสั่งของศาลชั้นต้นและมีคำสั่งใหม่"

จากประเด็นของนางปรียานันท์ ถือเป็นบทเรียนสำคัญด้านบริการสาธารณสุข ที่ยังไม่มีช่องทางในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ ทำให้การดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมต้องใช้ระยะเวลายาวนาน และก่อให้เกิดความขัดแย้งบาดลึกระหว่างผู้ป่วยและแพทย์

ดังนั้นการผลักดันให้เกิด พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ ที่มีเนื้อหาในการเร่งชดเชยเยียวยา เอาบทเรียนไปแก้ปัญหา แต่ไม่ตราผิดบาปให้ใคร จึงเป็นกฎหมายที่สำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องพิจารณาเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้บริโภค

กรณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2534 นางปรียนันท์ ได้ฝากครรภ์ที่รพ.พญาไท 1 พบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอไม่เคยขาด แม่และเด็กปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคแทรกซ้อน แต่เป็นครรภ์ที่เสี่ยงสูงคือ เป็นหญิงท้องแรก เด็กตัวโต น้ำหนัก 4,050 กรัม และอยู่ในท่าคลอดที่ผิดปกติคือหงายหน้าออก จนกระทั่งถึงวันคลอด วันที่ 30 มีค. 34 เวลา 23.00 น. สุติแพทย์มาถึงห้องคลอดใช้เครื่องดูดจนเกิดก้อนห้อเลือดบริเวณท้ายทอยของลูก การคลอดไม่สำเร็จจึงต้องทำการผ่าตัด

หลังผ่าตัดก้อนเนื้อห้อเลือดละลาย ลูกตัวเหลืองมากส่องไฟไม่ลด กุมารแพทย์ถ่ายเลือดผ่านสายสะดือทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง มีไข้สูง เม็ดเลือดขาวสูงขึ้นผิดปกติถึง 20,200 ตัว น้ำหนักตัวลดอย่างต่อเนื่อง สะดือแฉะมีหนอง แต่แพทย์ไม่ให้ยาปฏิชีวนะ เป็นเหตุให้หนองเข้าไปทำลายข้อสะโพกจนเสียหาย กลายเป็นคนไม่มีข้อสะโพกซ้าย ทำให้ขาสั้นยาวไม่เท่ากัน เดินกระเผลก หลังคด นั่งสมาธิไม่ได้ ส่วนข้อแขนซ้ายถูกหนองเข้าไปทำลายและกระดูกต้นแขนซ้ายหักตอนคลอด ทำให้แขนซ้ายสั้นและอ่อนแรงกว่าแขนขวา แกว่งเป็น 360 องศาไม่ได้

พิมพ์ อีเมล