ผู้ผลิตทีวีหมายชิงเค้กโฆษณา

tv_consumersเครื่องรับโทรทัศน์ที่จะออกสู่ตลาดในปีนี้จะสามารถบอกได้ว่าผู้ ชมกำลังรับชมรายการประเภทใด และจะส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้กับนักการตลาดผ่านทางเว็บไซต์ นับเป็นการเปิดช่องทางทำรายได้ใหม่ให้กับเจ้าของโฆษณา ขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แอลจี อีเลคโทรนิคส์ ได้นำโทรทัศน์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์จากบริษัท ค็อกนิทีฟ เน็ตเวิร์กฯ ซึ่งสามารถติดตามรายการต่างๆ และบันทึกข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ขณะที่กำลังออกอากาศผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ มาจัดแสดงที่งานไอเอฟเอ งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-11 กันยายน ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี


ไมเคิล คอลเล็ตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของค็อกนิทีฟกล่าวว่า ผู้ผลิตโทรทัศน์รายใหญ่อื่นๆ อาทิ ซัมซุง อิเล็คโทรนิคส์ และวิซิโอ อิงค์ กำลังเจรจากับทางบริษัทเพื่อนำซอฟต์แวร์ดังกล่าวไปใช้กับโทรทัศน์ของตน ผู้ผลิตโทรทัศน์พยายามเจาะเข้าสู่แหล่งรายได้จากธุรกิจโฆษณาทางทีวีที่มีการ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวม 1.965 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ โดยรายได้จากโฆษณาอาจจะเข้ามาช่วยให้ผู้ผลิตโทรทัศน์มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น หลังจากเผชิญกับแรงกดดันด้านราคาจากความต้องการที่ชะลอตัวและการแข่งขันสูง


“งานของเราคือสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับผู้ผลิตทีวี ที่ในกรณีที่โชคดีสามารถทำอัตรากำไรได้ 5% จากการผลิตฮาร์ดแวร์” คอลเล็ตต์ กล่าว


ซอฟต์แวร์ของค็อกนิทีฟจะส่งข้อมูลการรับชมโทรทัศน์ของผู้ชมกลับเข้าสู่ฐาน ข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต ช่วยให้นักการตลาดสามารถเลือกปรับการนำเสนอโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ ค็อกนิทีฟกล่าวว่า โทรทัศน์ของแอลจีที่จำหน่ายในปีนี้และปีหน้าจะมีเทคโนโลยีดังกล่าว แม้ว่ารุ่นที่แอลจีนำมาสาธิตในงานไอเอฟเอจะเป็นรุ่นปี 2557


เกรซโน้ต ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของโซนี่และเป็นคู่แข่งของค็อกนิทีฟ ก็กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อนำซอฟต์แวร์ติดตามข้อมูลคอนเทนต์มาใช้ใน เครื่องรับโทรทัศน์ โดยโฆษกของบริษัทกล่าวว่า เกรซโน้ตอยู่ในการทำสัญญาขั้นสุดท้ายกับผู้ผลิตโทรทัศน์และผู้แพร่ภาพสำหรับ เปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิ


ผู้ผลิตโทรทัศน์กำลังพยายามเจาะเข้าสู่ตลาดโฆษณาที่แสดงให้เห็นแล้วว่ายัง สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค คอลเล็ตต์กล่าวว่า เพื่อสร้างฐานผู้ชมให้กับเจ้าของโฆษณา จะต้องมีโทรทัศน์อย่างน้อย 10 ล้านเครื่องที่ใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าว


อย่างไรก็ดี มีความกังวลใจจากผู้ให้บริการเพย์ทีวีในการผลักดันการใช้เทคโนโลยีติดตามการ รับชมว่าเสี่ยงที่จะก้าวล้ำเส้นเรื่องความเป็นส่วนตัว วอร์เรน ชลิชติ้ง รองประธานอาวุโสฝ่ายการขายและวิเคราะห์สื่อจาก ดิช เน็ตเวิร์ค ผู้ให้บริการทีวีดาวเทียมอันดับ 2 ของสหรัฐฯ กล่าวว่า “เราอยู่ในธุรกิจเพย์ทีวีเป็นหลัก แม้ว่าธุรกิจโฆษณาของเราจะเติบโตอย่างดี แต่เราจะไม่เสี่ยงสร้างความตื่นตระหนก เพียงเพื่อทำผลงานให้ดีขึ้นในบางอย่างที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของเรา”


ผู้บริหารของทั้งค็อกนิทีฟและเกรซโน้ตกล่าวว่า เทคโนโลยีมีความคล้ายคลึงกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ติดตามข้อมูลเว็บไซต์ที่ผู้ บริโภคเข้าชมโดยใช้คอมพิวเตอร์และไอแพด สตีเฟน ไวท์ ประธานบริษัทเกรซโน้ตกล่าวว่า หลังจากผู้ใช้โทรทัศน์ตกลงยอมรับการติดตั้งซอฟต์แวร์ เจ้าของโฆษณาและผู้จัดผังรายการจะสามารถเข้าถึงข้อมูลการรับชมเพื่อตัดสินใจ ว่าจะออกอากาศคอนเทนต์ใดที่ไหนเวลาใด


“เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเปิดเผยต่อผู้บริโภคว่าจะใช้ข้อมูลของพวกเขาอย่างไร ถ้าเราทำสิ่งที่สร้างประสบการณ์การรับชมที่ดีขึ้นสำหรับพวกเขา และมอบสิ่งที่พวกเขาสนใจ เราเชื่อว่าผู้บริโภคจะเลือกใช้งานระบบดังกล่าว” ไวท์กล่าว


ตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์ประเภทนี้ เช่น ร้านพิซซ่าอาจจะขอให้มีการแทรกโฆษณาระหว่างพักโฆษณาเพื่อนำเสนอส่วนลด 10% ให้กับผู้ชมที่อยู่ใกล้กับร้าน เป็นต้น สำหรับส่วนแบ่งรายได้จะเป็นการแบ่งกันระหว่างสถานีโทรทัศน์ เจ้าของซอฟต์แวร์และผู้ผลิตโทรทัศน์ อูยาลา บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลวิดีโอกล่าวว่า เนื่องจากโฆษณาประเภทที่เรียกว่าไดนามิกแอดเวอร์ไทซิง (Dynamic Advertising) เช่นนี้สามารถเจาะเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีกว่า เจ้าของโฆษณาบางรายพร้อมที่จะจ่ายเงินเพิ่มจากราคาโฆษณาทีวีปกติถึง 25%


ทั้งนี้ข้อมูลจากบริษัทวิจัย เอ็นพีดี กรุ๊ป ระบุว่า 29% ของสมาร์ททีวี (โทรทัศน์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้) มีการนำมาใช้เข้าชมเว็บไซต์ ขณะที่เพียง 15% สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับบริษัทวิดีโอออนไลน์ เช่น เน็ตฟลิกซ์ ขณะที่ไอเอชเอส สกรีน ไดเจสต์ คาดการณ์ว่ายอดขายสมาร์ททีวีจะเพิ่มถึง 141 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็น 55% ของตลาดทีวีทั่วโลกภายในปี 2558

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 10 ก.ย. 2556

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน