พลังงานปรับแผนPDPเหตุโรงไฟฟ้าต้องทำHIA

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางนัดพิพากษาคดีออกใบอนุญาตก่อสร้าง 76 โครงการลงทุนมาบตาพุดว่า ในวันที่ 2 ก.ย. ศาลปกครองกลางนัดฟังคำพิพาษา ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์คำตัดสินได้ แต่หากศาลพิจารณายกคำฟ้อง ภาคเอกชนก็พร้อมที่จะเดินหน้าโครงการต่อไปได้ โดยเฉพาะในส่วนของโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 6 ของ บมจ.ปตท. จะสามารถขออนุญาตเพื่อขอดำเนินการได้ทันทีภายใน 1 เดือน

โดยขณะนี้โครงการโรงแยกก๊าซฯ ได้จัดทำรายงานกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA) เสร็จเรียบร้อยแล้ว หากเดินหน้าโครงการต่อไปได้จะสามารถผลิตแอลพีจีได้ 80,000-100,000 แสนตันต่อเดือน และในไตรมาส 4 ปีนี้อาจจะลดการนำเข้าได้เหลือประมาณ 3 หมื่นตันต่อเดือน จากเดิมที่คาดว่าจะนำเข้าประมาณ 1.3 แสนตันต่อเดือน

ทั้งนี้กระทรวงพลังงานมีนโยบายที่จะปรับแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าในระยะ ยาว(PDP 2010) ใหม่ เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติมีกำลังการผลิตเกินกว่า 3 พันเมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีกำลังการผลิตเกิน 100 เมกะวัตต์ จำเป็นต้องทำ HIA ตามประกาศ 11 กิจการที่อาจจะก่อให้เกิดผล กระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินงานเพิ่มเติม ทำให้โรงไฟฟ้าบางโรงที่อยู่ในแผนพีดีพีล่าช้าออกไป

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 31 สิงหาคม 2553

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน