เปิดฟังความเห็นผ่านเว็บไม่ลดค่าไฟ

“เรกูเลเตอร์” เปิดฟังความเห็น ไม่ลดค่าเอฟทีงวดพ.ค. ผ่านเว็บไซต์ หลังค่าเชื้อเพลิงถูกลงเกือบ 5,000 ล้านบาท

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) หรือกกพ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนผ่านเว็บไซต์ของกกพ. กรณีการประกาศอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 2552

ทั้งนี้ ในหลักการมีมติไม่ให้ปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่ เพื่อบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน เนื่องจากมีค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าลดลง ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงคิดเป็นจำนวนเงิน 4,986 ล้านบาท หรือคิดเป็นค่าเอฟทีที่ปรับลดลงได้ 15.54 สตางค์/หน่วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. ได้ประมาณการความต้องการไฟฟ้าตามทิศทางเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มเฉลี่ยลดลงประมาณ 16.87 ล้านหน่วย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่แนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค. ลดลง 16.38 บาท/ล้านบีทียู หรือลดจาก 249.65 บาท/ล้านบีทียู เป็น 233.28 บาท/ล้านบีทียู ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้สามารถคงค่าเอฟทีในอัตราเดิมที่ 92.55 สต./หน่วยไว้ได้ หรือค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.17 บาท/หน่วย

การปรับค่าเอฟทีในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. 2552 ต้องยอมรับว่ามีค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าสะสมที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระแทนประชาชนเป็นจำนวน 2.26 หมื่นล้านบาท จึงกำหนดให้เฉลี่ยปรับขึ้นค่าเอฟทีเป็นช่วงๆ ในระดับที่เหมาะสมและไม่เกิดผลกระทบมากเกินไป

หากคำนวณค่าเอฟทีจากภาระสะสมดังกล่าว จะทำให้ค่าเอฟทีงวดนี้ต้องปรับเพิ่มขึ้น 42.93 สต./หน่วย หรือประชาชนต้องรับภาระค่าไฟเฉลี่ยสูงถึง 13%

นายดิเรก กล่าวว่า การพิจารณาค่าเอฟทีจะให้ความสำคัญกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการทั้งที่เป็นบ้านอยู่อาศัย และผู้ใช้บริการภาคธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรม การผลิต และการบริการ ควบคู่ไปกับการคำนึงความสามารถของกฟผ. ในการรับภาระค่าเอฟทีแทนผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ การไม่ปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่ เมื่อนำมารวมกับยอดสะสมที่เกิดจากความแตกต่างระหว่างค่าเอฟทีที่คำนวณได้กับการเรียกเก็บในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กฟผ. มีรายได้ค้างรับลดลง 3,541 ล้านบาท มาอยู่ที่ 1.91 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การเปิดรับฟังความเห็นครั้งนี้ ผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับค่าเอฟที สำหรับการเรียกเก็บในช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 2552 มายังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานระหว่างวันที่ 1-11 พ.ค.นี้

หลังจากนี้จะมีการประมวลความเห็นก่อนจะประกาศค่าเอฟทีอย่างเป็นทางการในบิลค่าไฟฟ้า เดือนพ.ค.
ข้อมูลจาก นสพ.โ พสต์ทูเดย์ 4/5/52
ประชาชนสามารถ ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ http://www.erc.or.th/PublicHearingForm.aspx?RowID=18 ค่ะ 
{mxc}

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน