"รสนา"โต้"เพ้ง"พลิกลิ้นข้อมูลราคาก๊าซ

"รสนา"โพสต์คลิปวิดีโอ "พงษ์ศักดิ์" แจงราคาก๊าซแอลพีจีต่อสภา จวก"พลิกลิ้น"หลังเจอกล่าวหาให้ข้อมูลเท็จ ถามใครกันแน่ที่ให้ข้อมูลเท็จ

 

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว. กรุงเทพฯ ได้โพสต์คลิปวิดีโอ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงานชี้แจงราคาก๊าซแอลพีจีต่อที่ประชุมวุฒิสภา ในการประชุมวันที่ 28 พ.ย. 2555 หลังจากที่เมื่อวันที่ 5 ม.ค. นายพงษ์ศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า จากการตรวจสอบเอกสารคัดค้านการปรับขึ้นราคาแอลพีจีที่ น.ส.รสนา ทำแจกจ่ายประชาชนนั้น พบว่าข้อมูลไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะกรณีที่ระบุว่า ปตท.ขายแอลพีจี ให้โรงงานปิโตรเคมีต่ำกว่าภาคครัวเรือน เพราะปัจจุบันราคาแอลพีจีที่ขายให้ปิโตรเคมีอยู่ที่ 24.60 บาทต่อก.ก.  ขณะที่ขายให้ครัวเรือน 18.13 บาทต่อก.ก. ส่วนต้นทุนเนื้อก๊าซที่อ้างว่าราคาต่ำเพียงแค่ 4 บาทต่อก.ก.นั้น ความจริงต้นทุนปัจจุบันอยู่ที่ 10 บาทต่อก.ก.

น.ส.รสนา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าวว่า  รัฐมนตรีกล่าวหาว่าดิฉันให้ข้อมูลเท็จเรื่องราคาแอลพีจีที่ปิโตรเคมีซื้อ นั้นไม่ได้ถูกกว่าครัวเรือนที่ซื้อราคา18.13บาท/ก.ก แต่ซื้อแพงกว่าในราคา 24.60บาท/ก.ก แต่ที่มารายงานในวุฒิสภาบอกว่าซื้อราคา 16.20บาท/ก.ก ดูหลักฐานจากเทปที่เพิ่งพูดเมื่อ 28พ.ย 2555นี้เอง ใครให้ข้อมูลเท็จกันแน่

นอกจากนี้รัฐมนตรียังพูดว่าจะเอาก๊าซจากอ่าวไทยให้คนมีรายได้น้อยใช้ก่อน มาวันนี้ บอกจะขึ้นราคาโดยไม่สนคนคัดค้านแล้ว อย่างนี้เรียกพลิกลิ้นดี หรือตระบัดสัตย์ดี คนเป็นรัฐมนตรี พูดคำไหน ต้องเป็นคำนั้น เมื่อพูดออกมา คำพูดเป็นนายเรา

สงสัยว่ารัฐมนตรีอาจจะโดนลูกสะกดที่ท้ายทอยอย่างในละครเหนือเมฆ จากจอมขมังเวทย์ก็ได้นะ จึงได้พูดพลิกลิ้น แล้วยังมากล่าวหาดิฉันว่าให้ข้อมูลเท็จ ถึงขนาดต้องใช้อำนาจรัฐมนตรีล้วงเงินหลวงมาพิมพ์เอกสารชี้แจงตอบโต้ดิฉัน ตั้ง1ล้านชุด ท่านคงลืมที่พูดไว้ในวุฒิสภาเพราะเจอมนต์สะกดจากจอมขมังเวทย์ใช่ไหมคะ?

ก่อนหน้านี้ น.ส.รสนายังได้โพสต์ข้อความด้วยว่า ท่านรัฐมนตรีเป็นคนชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า "ปิโตรเคมีใช้แอลพีจีราคา 16.20บาท/ก.ก" เมื่อ28พ.ย.2555 นี้เอง ผ่านมาแค่เดือนกว่าๆ พลิกลิ้นหาว่าดิฉันปล่อยข้อมูลเท็จที่ว่า ปิโตรเคมีใช้ถูกกว่าครัวเรือนนั้นไม่จริงเพราะครัวเรือนใช้ที่ราคา 18.13บาท/ก.กส่วนปิโตรเคมีใช้ราคา24.60 บาท/ก.ก. หาว่าดิฉันเผยแพร่ข้อมูลเท็จ แต่ไม่ยอมมาชี้แจงที่วุฒิสภา ใช้วิธีเผยแพร่ข้อมูลทางเดียวแบบตีหัวเข้าบ้าน ดิฉันเสนอให้เปิดเวทีสาธารณะ เอาตัวเลขมาชี้แจงกัน ก็ไม่เอา และมาตั้งข้อสงสัยว่าดิฉันปกป้องใคร?ดิฉันขอตอบเลยว่า ดิฉันปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศนี้ ดิฉันไม่ปกป้องผลประโยชน์ของคนหยิบมือที่ร่ำรวยจากการล้วงกระเป๋าชาว บ้านอย่างแน่นอน

รัฐมนตรีจะไปเชื่อข้อมูลข้าราชการโดยไม่ฟังข้อมูลจากคนอื่นที่เห็นต่าง เลย นับว่าขาดความรอบคอบ เห็นได้จากข้อมูลที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเป็นข้อมูลที่ท่านพูดเอง ข้อมูลราคาแอลพีจีที่ปิโตรเคมีใช้ เป็นข้อมูลที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะชนิดมีหลักฐานให้ตรวจสอบได้ ว่าเป็นราคาไหนกันแน่ระหว่าง 16.20 บาท/ก.ก หรือ 24.60 บาท/ก.ก ตัวเลขเหล่านี้นั่งเทียนเขียนได้โดยไม่เคยมีหลักฐานให้คนเข้าไปตรวจสอบได้ เหมือนอยู่ใน ทไวไลท์โซน

ข้อมูลจากข้าราชการในกระทรวงพลังงานที่ล้วนแต่ไปนั่งรับผลประโยชน์ จากกลุ่มธุรกิจพลังงาน ในรูปของโบนัส เบี้ยประชุม ปีละ 3-10ล้านบาท ในขณะที่คนเหล่านี้สามารถใช้อำนาจรัฐในการกำหนดราคาที่เอื้อประโยชน์ให้ กลุ่มธุรกิจเพื่อเพิ่มพูนผลกำไรให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ข้าราชการระดับสูงเหล่านี้ ได้โบนัสเพิ่มขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ขัดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง และขัดกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการบ้านเมืองที่ดี เป็นข้อมูลที่รัฐมนตรีสามารถเชื่อได้โดยไม่ตรวจสอบหรือ? อย่างน้อยต้องเปิดให้สาธารณะได้ตรวจสอบได้ง่ายๆ เพราะการมีผลประโยชน์ทับซ้อนของข้าราชการเหล่านี้ทำให้ข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ

จากการกำหนดให้ราคาก๊าซแอลพีจีที่ประชาชน 3กลุ่มใช้ (กลุ่มครัวเรือน,ยานยนต์และ อุตสาหกรรมทั่วไป) ราคาตลาดโลก ทั้งที่ก๊าซแอลพีจีที่ผลิตได้ในประเทศมีอยู่50-55% เหตุใดประชาชนทุกกลุ่มต้องใช้แอลพีจีราคาตลาดโลก ทั้งที่ผลิตได้เองในประเทศถึงกว่าครึ่งหนึ่งของความต้องการใช้ในประเทศ ส่วนที่ผลิตได้ ถ้าไม่ใช่เพื่อให้ธุรกิจปิโตรเคมีไว้ทำกำไรให้กับกลุ่มของตัวเอง เอาไปอยูที่ไหนในสมการ การจัดหา และการใช้แอลพีจีไม่ทราบ?

รัฐมนตรีไม่ควรกล่าวหาแบบตีหัวเข้าบ้านว่าดิฉันใช้ข้อมูลเท็จ ถ้าเป็นข้อมูลเท็จก็มาจากข้อมูลที่ท่านเอามาแถลงต่อวุฒิสภา เป็นข้อมูลที่ท่านเอาจากข้าราชการในกระทรวงของท่าน ถ้าต้องการแสวงหาความจริง ก็มาชี้แจงที่วุฒิสภา หรือเปิดเวทีสาธารณะ เอาข้อมูลมาตอบ มาชี้แจงกัน ถ้าแน่ใจว่าไม่ได้ใช้ข้อมูลเท็จมาหลอกชาวบ้านเสียเอง ก็ไม่เห็นต้องลังเลที่จะเปิดเวทีมาดีเบตกัน นี่จึงจะเรียกว่าเป็นการส่งเสริม ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือกัน

ประชาธิปไตยทางการเมืองจะมีความหมายอะไร ถ้ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ทำให้เกิดประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ จากทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นของประชาชนทุกคน แต่กลับยักย้ายทรัพยากรของคนทั้งประเทศเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับกลุ่ม เพียงหยิบมือของตัวเองและพวกพ้อง และปล่อยให้เกิดความอดอยากยากแค้นในคนหมู่มาก ต้องรัดเข็มขัดจนท้องกิ่ว ในขณะที่คนกลุ่มหยิบมือกลับได้ส่วนแบ่งมากมายจากทรัพยากรของคนทั้งชาติไป ครอบครองสร้างความร่ำรวย

คลิกชมคลิป วีดีโอ https://www.facebook.com/photo.php?v=510072459037264

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน