เครือข่ายผู้บริโภคยื่นหนังสือ ก.อุตสาหกรรม เลิกนำเข้าแร่ใยหิน

ผู้บริโภคกว่า 100 ชีวิต บุกกระทรวงอุตสาหกรรม กระตุ้นรัฐมนตรีฯทำหน้าที่ สั่งยกเลิกการนำเข้าแร่ใยหิน ปลัดกระทรวงฯเป็นตัวแทนรับข้อเสนอ พร้อมให้สัญญาขอเวลา 1 เดือน พิจารณาความเหมาะสม ผู้บริโภคยันพร้อมกลับมาทวงคำตอบ

8 ก.พ 54 เครือข่ายผู้บริโภคจากทั่วประเทศกว่า 100 คน เข้ายื่นหนังสือถึง นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เร่งทำหน้าที่พิจารณาออกประกาศยกเลิกการนำเข้าวัตถุดิบแร่ใยหิน หรือ แอสเบสตอส (Asbestos) ภายใน 3 เดือน และยกเลิกการผลิตและการจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินที่สามารถใช้วัตถุดิบอื่นทดแทนภายใน 1 ปี หลังประเทศชั้นนำกว่า 50 ประเทศทั่วโลกยกเลิกการนำเข้าอย่างเด็ดขาด แต่ประเทศไทยยังคงมีการนำเข้าเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในอุปกรณ์ก่อสร้างหลายชนิด ทั้ง แผ่นกระเบื้อง ปูนซีเมนต์ รวมถึงในผ้าเบรครถยนต์ ไดรเป่าผม และในแป้งฝุ่นผัดหน้า ซึ่งมีข้อมูลยืนยันแล้วว่าแร่ใยหินเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  ทำให้เกิดโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด โรคปอดอักเสบจากแอสเบสตอส  หรือแอสเบสโตซิส  และโรคมะเร็งปอด แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ตื่นตัวกับอันตรายของแร่ใยหิน เนื่องจากความเจ็บป่วยจากการได้รับสารดังกล่าวเป็นในลักษณะภัยเงียบ คือกว่าจะแสดงอาการอาจใช้เวลาถึง 30 ปี ซึ่งคาดกันว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดในไทยเพิ่มสูงขึ้น

ในการเข้ายื่นหนังสือครั้งนี้ นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสากรรม เป็นตัวแทนรับหนังสือ ข้อเสนอการจัดการอันตรายจากแร่ใยหิน ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ได้จากการประชุมเครือข่ายผู้บริโภคทั่วประเทศ นักวิชาการ องค์กรผู้บริโภค  เจ้าหน้าที่ภาครัฐ  ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา และสื่อมวลชนภูมิภาค  รวมทั้งสิ้น 550 คน โดยมีข้อเสนอหลักๆ คือ  มาตรการการยกเลิกการนำเข้า  การผลิต  และจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินที่สามารถใช้วัตถุดิบอื่นทดแทนได้ และยกเลิกภาษีของวัตถุดิบทดแทนแร่ใยหิน  ทั้งนี้วัตถุดิบที่นำมาทดแทนจะต้องไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ

โดยปลัดกระทรวงฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาของเวลา 1 เดือนในการพิจารณาขอเสนอจากผู้บริโภค นำไปปรับเพื่อความเหมาะสม โดยผู้บริโภคเองก็พร้อมจะกลับมาทวงถามคำตอบในอีก 1 เดือนข้างหน้าเช่นเดียวกัน

 

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน