นักวิชาการทีดีอาร์ไอหนุนรัฐบาลตั้งระบบบำยาญชราภาพ  ให้ประชาชนออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ ชี้มส.ผส.ร่างรายละเอียดการบริหารจัดการไว้แล้วรอเพียงรัฐนำไปใช้

นางวรวรรณ ชาญด้วยวิทย์  นักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)  กล่าวว่า ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดตั้งระบบบำนาญชราภาพสำหรับคนไทยเพื่อสนับสนุนให้ ประชาชนออมเงินใช้ในยามชรา โดยมีรัฐบาลช่วยสนับสนุนเงินออมสมทบ สอดคล้องกับผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาของสำนักงานสถิติแห่งชาติ

จากการสำรวจพบว่า 82% ของประชาชนต้องการออมเงิน  มีเพียง 2% เท่านั้น ที่ไม่ต้องการออมเพราะไม่เชื่อมั่นรัฐบาล ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ดำเนินการระบบบำนาญสำหรับคนไทย เพราะเกรงว่าต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และเป็นภาระผูกพัน แต่จากการศึกษาเชิงวิชาการของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) กลับเห็นตรงกันว่า การจัดทำระบบบำนาญสำหรับคนไทยทุกคนไม่ได้เป็นภาระกับงบประมาณประเทศ หากให้ประชาชนร่วมออมด้วย

นักวิชาการจากทีดีอาร์ไอกล่าวอีกว่า ข้อเสนอของสศค. คือให้มีการออมขั้นต่ำสำหรับคนกลุ่มอายุต่างๆ และรัฐร่วมสมทบเข้าบัญชีของผู้ออมแต่ละคน อาทิ วัย 20-30 ปีออมขั้นต่ำ 100 บาทรัฐช่วยสมทบ 50 บาท วัย 30-50 ปี ออมขั้นต่ำ 100 บาท รัฐช่วยสมทบ 80 บาท และวัย 50-60 ปีออมขั้นต่ำ 100 บาทรัฐช่วยสมทบ 100 บาท เป็นต้น โดยที่การออมของทุกกลุ่มอายุ สามารถเพิ่มขึ้นได้ถึงเดือนละ 1,000 บาท แต่รัฐยังออมในจำนวนเท่าเดิมไม่ต้องเพิ่มตาม  ใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และไม่เพิ่มภาระการคลังในระยะยาว ในปีแรก โดย มส.ผส. ได้ร่าง พ.ร.บ. บำนาญแห่งชาติ ที่มีรายละเอียดของการบริหารจัดการและการกำกับตรวจสอบไว้แล้วรอเพียงรัฐบาล นำไปใช้เท่านั้น

นสพ.โพสต์ทูเดย์ 18 กรกฎาคม 2553