บริการสุขภาพ

สปสช.เพิ่มบริการทันตกรรม

สปสช.เห็นชอบ จัดงบประกันสุขภาพปี 54 เพิ่มบริการทันตกรรม ด้านผู้ป่วยจิตเวชเข้าถึงยาหัวละ 39.25 บาท

วันนี้ (12 ก.ค.)นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยหลังจากการประชุมกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เรื่องแนวทางการบริหารงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2554 โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ว่า จาก ที่มีมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพในปีงบประมาณ 2554 ซึ่งแบ่งเป็น 5 กองทุนย่อย ได้แก่ 1.งบเหมาจ่ายรายหัว อัตรา 2,546.48 บาทต่อประชากร รวมเป็น 122,222 ล้านบาท จากประชากรจำนวน 47,996,600 คน โดยจะจัดสรรงบฯเพิ่มเติมในส่วนของการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ซึ่งจัดงบฯสำหรับบริการทันตกรรมส่งเสริมและทันตกรรมประดิษฐ์ 39.25 บาทต่อประชากร โดยมีกำนดการที่จะเริ่มในวันที่ 1 ต.ค.นี้

นพ.ประทีป กล่าวด้วยว่า สำหรับงบบริการทันตกรรม จำนวน 39.25 บาทต่อประชากร จะแบ่งงบเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.จำนวนเงิน 2.25 บาทต่อประชากรราว 47 ล้านคน สามารถใช้ในด้านการบริการทันตกรรมที่มุ่งเน้นการทำฟันปลอมในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 2.งบที่เหลืออีก 36 บาท ใช้เพื่อการส่งเสริมสุขภาพช่องปากในประชากร 63 ล้านคน เน้นการเปิดโอกาสให้เด็กวัยเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ใช้บริการเคลือบหลุมร่องฟัน อุดฟัน ถอนฟัน เพื่อป้องกันปัญหาฟันผุ

สำหรับงบประมาณส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในปี 2554 นั้น จะลดลงเหลือร้อยละ 12 จากเดิมร้อยละ 18 ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่าภายใน 5 ปี จะของบประมาณเป็นร้อยละ 18 เท่าเดิม เนื่องจากเล็งเห็นว่าการมุงเน้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมป้องกันโรคนั้นจะ เป็นผลดีกว่า การรักษาอาการตามหลัง

ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ในส่วนของการกำหนดแนวทางการบริหารงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี งบประมาณ 2554 นั้นได้วางให้เป็นไปภายใต้แนวคิดหลักที่ต่อเนื่องจากปี 2553 โดยเน้นการเอื้อประโยชน์ในการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนอย่างเท่าเทียม กัน

ทั้งนี้ ในที่ประชุมบอร์ดของ สปสช.ยังได้หารือในประเด็นของการของบประมาณบริการสุขภาพสำหรับผู้ติดเชื้อเอ ชไอวี (HIV) หรือผู้ป่วยเอดส์ 2,997 ล้านบาท โดยได้ตั้งเป้าหมาย 152,000 คน เน้นแนวทางให้ยาต้านไวรัสตามมาตรฐานใหม่ขององค์การอนามัยโลก (WHO)ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดหายาต้านไวรัส ซึ่งจะทำให้ลดภาระงบประมาณด้านยาต้านไวรัสได้ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงงบประมาณบริการสุขภาพผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจำนวน 3,226 ล้านบาท โดยเน้นการจัดการบริการปลูกถ่ายไตให้มากขึ้น และให้บริการทดแทนไตครอบคลุมประชากรเป้าหมายเพิ่มขึ้น 16,351 คน และงบประมาณบริการควบคุมป้องกันความรุนแรงของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง 630 ล้านบาท เพิ่มการเข้าถึงบริการและยกระดับให้ผู้ป่วยได้รับบริการตามมาตรฐาน ใช้งบประมาณ 630 ล้านบาท เป้าหมาย 2,311,538 คน และสุดท้ายการจัดสรรงบประมาณบริการสุขภาพผู้ป่วยจิตเวช 203 ล้านบาท เป้าหมายอัตราการเข้าถึงยาร้อยละ 20 สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 119,371 คน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กรกฎาคม 2553 18:34 น.

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน