บุกจับ “รักเด้อ เรดิโอ” วิทยุชุมชนเถื่อน ขายของอวดอ้างสรรพคุณ

tnews_1379172629_2210อย.จับมือ บก.ปคบ. กสทช.บุกจับวิทยุชุมชนเถื่อน “รักเด้อ เรดิโอ” พบโฆษณาอาหารเสริมโอ้อวดสรรพคุณเพียบ แถมไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ แจ้งดำเนินคดีแล้ว 3 ข้อหา เตือน ปชช.อย่าหลงเชื่อโฆษณาตามวิทยุชุมชนง่ายๆ ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน

 

ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ขณะนี้พบวิทยุชุมชน ย่านรามอินทรา กระทำผิดกฎหมาย ไม่ขออนุญาตประกอบกิจการ และโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณของผลิตภัณฑ์อาหารว่าสามารถรักษาโรคได้หลายชนิด ไม่ต้องไปพบแพทย์ สามารถกลับมาเดินได้ ซึ่งวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ อย. กสทช.และตำรวจ บก.ปคบ.จึงนำกำลังเข้าจับกุมวิทยุชุมชน ณ สถานีวิทยุชุมชนรักเด้อ เรดิโอ คลื่นความถี่ FM 99.25 MHz ตั้งอยู่ที่ 30/246 ซ.รามอินทรา 39 ถ.รามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ผลจากการตรวจสอบวิทยุชุมชนดังกล่าว เบื้องต้นพบการกระทำผิดกฎหมาย ดังนี้ 1.ตั้งสถานีวิทยุชุมชนและใช้คลื่นความถี่โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย 2.ไม่มีใบประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง

 

ภญ.ศรีนวล กล่าวอีกว่า 3.พบข้อความออกอากาศ ลักษณะโฆษณาอวดสรรพคุณผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย อาทิ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวผสมคิวเทน ตราพรีมเนเจอร์พลัส คุณค่าที่ดีต่อสุขภาพของคนทุกวัย ผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย.“คุณพรรณ แม่บ้าน ได้ทานพรีมเนเจอร์พลัสไป 1-2 กระปุก อาการมือเท้าชาหายไป ภูมิแพ้หาย แถมผิวพรรณเปล่งปลั่ง หน้าตาสดใส, คุณโชติกา ทดลองทานน้ำมันรำข้าวพรีมเนเจอร์พลัส อาการปวดตามข้อพับดีขึ้น ปวดศีรษะลดลง สบายตัว ไม่เมื่อย ผิวขาวเปล่งปลั่งขึ้น” เป็นต้น เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมด และในเบื้องต้นแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดี

 

ภญ.ศรีนวล กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อหามีดังนี้ 1.มี ใช้ ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 23 ปรับไม่เกิน 1 แสน หรือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ใช้คลื่นความถี่ประกอบกิจการกระจายเสียง/ทีวี โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับวันละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน และ 3.โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร เพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมาตรา 41 มีโทษตามมาตรา 71 ระวางโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท และหากโฆษณาสรรพคุณอาหารอันเป็นเท็จ หรือหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

“ขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกล และส่วนใหญ่รับข่าวสารจากทางวิทยุชุมชน อย่าเพิ่งด่วนหลงเชื่อโฆษณา โดยเฉพาะโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารว่า สามารถรักษาโรคร้ายได้สารพัดโรค เช่น มะเร็ง หัวใจ ความดัน เบาหวาน ข้อเสื่อม เข่าเสื่อม อัมพาต ฯลฯ หรือนำบุคคลมาอ้างอิงว่าใช้แล้วได้ผล ควรไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน เพราะอาหารไม่ใช่ยา อย่าเสียเงินทองโดยไม่จำเป็น เพราะอาจได้รับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ขออนุญาต และอาจมีสารอันตรายเป็นส่วนผสม ทำให้ได้รับผลข้างเคียงต่อร่างกาย” เลขาธิการ อย.กล่าว

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์ manager.co.th วันที่ 26 ก.ย. 2556

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน