“สารี”ยันเมื่อผู้ประกอบการได้ประโยชน์ ย่อมไม่ยอมลดราคาตามที่กทค.หวัง

สารี อ๋องสมหวัง ยืนยัน องค์กรผู้บริโภคร่วมตรวจสอบ 3G ไม่เกี่ยวการเมือง เน้นทำหน้าที่องค์กรผู้บริโภคที่ดูแลผลประโยชน์ผู้บริโภคและสาธารณะ และยกระดับงานกำกับดูแลโทรคมนาคม อยากให้เร่งเปิดบริการ 3G โดยเร็วเช่นกัน แต่มีความเสียหาย ต้องเปิดเผย เพราะการประมูลผู้บริโภคไม่ได้ประโยชน์ พร้อมย้ำกทค.ต้องพิสูจน์ตัวเอง

 

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านโทรคมนาคม ในคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์การตรวจสอบการประมูล 3G ว่า เรื่องนี้มีการปั่นกระแสข่าวอย่างมาก ทั้งในแง่ของการพยายามดิสเครดิตฝ่ายตรวจสอบว่าเป็นขบวนการล้มรัฐบาล ถือว่าเป็นความพยายามป้ายสีกลุ่มตรวจสอบเพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือ จึงอยากขอให้สังคมตั้งหลักให้ดี และอย่าคล้อยตามจนเบี่ยงเบนจากประเด็นหลักของเรื่อง นั่นคือ มีการฮั้วหรือทุจริตเกิดขึ้นในกรณีการจัดประมูล 3G จริงหรือไม่ รวมถึงประเทศเสียหายและผู้บริโภคเสียประโยชน์หรือไม่

นางสาวสารีกล่าวต่อไปว่า ทั้งที่ข้อเท็จจริงขณะนี้กทค.ไม่สามารถกำกับเรื่องข้อมูล (Data) ได้ และจะมีบริการในระบบ 2G ลดลงและไม่มีในที่สุด รวมทั้งไม่มีบริษัทไหนเห็นด้วยกับข้อเสนอของกทค.ที่จะลดราคาลง 15-20%  หากเป็นเช่นนี้ การคุ้มครองผู้บริโภค ทำได้ยาก นอกจากนี้เมื่อไม่มีส่วนแบ่งรายได้ของบริษัทให้กับรัฐ คือ ทศท. และกสท. ก็ไม่สามารถประกอบการได้ ณ ตอนนั้น จะแก้ปัญหาอย่างไร หากไม่นำงบประมาณแผ่นดินหรือภาษีไปสนับสนุนหรือช่วยเหลือ ซึ่งเป็นความเสียหายที่ชัดเจน จริงๆ คณะกรรมการทศท. และกสท. ควรมีท่าทีเรื่องนี้ ไม่ใช่เฉพาะสหภาพ

“เครือข่ายผู้บริโภคผลักดันนโยบายด้านโทรคมนาคมมาแล้ว และเห็นว่าทำได้ลำบากในปัจจุบัน ไม่ได้เพิ่งมายุ่งกับ 3G เพื่อผลทางการเมือง เรื่องที่เราติดตามตรวจสอบจนบรรลุผลแล้ว เช่น การทำให้ กทช. ประกาศห้ามผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเรียกเก็บค่าเชื่อมต่อเพื่อเปิดบริการใหม่หลังจากระงับบริการ จำนวน 107 บาท หรืออย่างเช่นในขณะนี้ก็มีการฟ้องคดีเรื่องการกำหนดวันหมดอายุของเงินในโทรศัพท์มือถือแบบจ่ายเงินล่วงหน้า ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย ส่วน 3G เราก็ให้ข้อมูลความเห็นมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า กติกา กทค. เอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการฝ่ายเดียว ข้อเท็จจริงเหล่านี้เห็นชัดเจนเมื่อประมูลแล้วเสร็จ การบิดเบือนเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นที่กำลังถูกตรวจสอบชวนให้คิดว่าเรื่องที่มีการกล่าวหานั้นเป็นความจริง เพราะถ้าไม่จริงน่าจะเน้นที่การชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าวสรุป

ด้านนายกำชัย น้อยบรรจง เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค จังหวัดสระบุรี หนึ่งในสมาชิกเครือข่ายองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ที่ได้ยื่นคำร้องตรวจสอบกรณีการจัดประมูล 3Gต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า สมาคมพบประเด็นความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการจัดประมูลคลื่น 3G ของ กสทช. โดยมีการดำเนินการที่ผิดขั้นตอนของกฎหมายและผิดหลักการบริหารที่ดีหลายประการ ตั้งแต่ในเรื่องของการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตฯ ส่วนในขั้นตอนการแก้ไขร่างประกาศดังกล่าวก็ทำในชั้นคณะทำงานของคนในโดยไม่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการที่ประกอบด้วยนักวิชาการคนนอกด้านต่างๆ ขณะที่ในขั้นการรับรองผลก็ทำโดย กทค. เท่านั้น

“ประเด็นเหล่านี้เรามีข้อมูลหลักฐานชัดเจนและสมาคมได้ยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินคงจะทำสำนวนส่งศาลก่อนหน้านั้น จึงไม่ได้รวมประเด็นและข้อมูลหลักฐานตามคำร้องของเราเข้าไว้ด้วย ซึ่งทางสมาคมอยากเรียกร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งคำร้องของเราให้ศาลพิจารณาด้วย” นายกำชัยระบุ

เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค จังหวัดสระบุรี ยืนยันว่า เขาเป็นคนหนึ่งที่ต้องการให้มีการเปิดบริการ 3G ในประเทศไทย แต่ก็รับไม่ได้ที่องค์กรกำกับดูแลอย่าง กสทช. โดยเฉพาะ กทค. ทำหน้าที่อย่างไม่ตรงไปตรงมา จนทำให้ประเทศชาติและผู้บริโภคต้องเสียประโยชน์อย่างมาก ซึ่งควรมีการตรวจสอบความผิดและจัดการในเรื่องนี้

 

 

พิมพ์ อีเมล