อธิบดีศาลแพ่งรับหนักใจชี้ชะตาจอดำ เรียก ฟรีทีวีไต่สวนด่วน ก่อนมีคำสั่ง

กก.ผจก.จีเอ็มเอ็ม ไต่สวนคุ้มครองจอดำบอลยูโร ยันแกรมมี่เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์แห่งเดียว และมีข้อบังคับสัญญายูฟาผูกพัน แก้ต่างไม่ได้ระงับส่งสัญญาณ แต่ระงับแค่เนื้อหาฟุตบอล โบ้ยข้อความขออภัยทีวีจอมืด เป็นเรื่องของสถานี ไม่เกี่ยวแกรมมี่ ขณะศาลแพ่ง ออกหมายเรียก ผู้แทนช่อง 3, 5, 7, 9, ไทยพีบีเอส ไต่สวนวันที่ 28 มิ.ย.เวลา 09.00 น.

วันที่ 27 มิ.ย.นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อธิบดีศาลแพ่ง เป็นประธานพิจารณาคดีที่องค์กรผู้บริโภค ยื่นฟ้องฟรีทีวีช่อง 3, 5, 9 และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท เป็นจำเลยที่ 1-4 ข้อหาร่วมกันละเมิดและทำผิดสัญญา(การให้บริการสาธารณะในการแพร่ภาพและกระจาย เสียง)เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ดำเนินการแพร่ภาพและกระจายเสียงรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012


การพิจารณานี้ (27 มิ.ย.) เป็นการพิจารณาเป็นวันที่ 2  โดยเรียกไต่สวนพยานเพิ่มเติม คือ นายเดียว วรตั้งตระกูล กรรมการผู้จัดการ Platform Strategy บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท โดยทนายฝ่ายจำเลย จากนั้นช่วงบ่าย 15.00 น. เป็นการซักค้านโดยทนายฝ่ายโจทย์


นาย เดียว วรตั้งตระกูล  เบิกความว่า บริษัทแกรมมี่ ซึ่งเป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์แห่งเดียวในประเทศไทยจากสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และมีหนังสือสัญญาร่วมกันว่าขอบเขตของการถ่ายทอดสดจะมีแค่ในประเทศไทยเท่า นั้น ซึ่งแกรมมี่ ยังมีคู่สัญญาด้วยกันกับช่อง 3 ,9 ฟรีทีวีที่มาช่วยแบกรับต้นทุน ส่วนช่อง5 เพิ่งจะมีการเจรจาภายหลังส่วนสัญญาที่ยูฟ่าระบุว่าการถ่ายทอดให้มีขอบเขต เฉพาะในประเทศไทยนั้น ในทางเทคนิคแล้วการควบคุมจะให้อยู่ในขอบเขตได้คือทางเสาอากาศ เคเบิ้ลทีวี และอินเตอร์เน็ต ฯลฯ

ซึ่งยูฟ่าระบุด้วยว่าในการถ่ายทอดผ่านระบบจานดาวเทียมต้องมีการป้องกัน แบบสูงสุด เพราะในระบบดาวเทียมจะมีอยู่ 2 ระบบคือ C-band ซึ่งรับสัญญาณจากดาวเทียมไทยคมจะสามารถส่งสัญญาณไปได้ถึง 22 ประเทศทั่วโลก และ Ku-band ซึ่งส่งสัญญาณได้ในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง

นายเดียว เบิกความว่า สำหรับช่อง 3,5,9 ซึ่งเป็นฟรีทีวีนั้น ตามสัญญาลิขสิทธิ์ที่ทำไว้กับยูฟ่าจะให้ได้รับสัญญาณจากทางภาคพื้นดิน ส่วนการจะส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมนั้นต้องได้รับการอนุญาตจากยูฟ่าก่อน ซึ่งช่องสัญญาณที่ได้รับการอนุญาตแล้ว คือเฉพาะ จี เอ็ม เอ็ม แชท และดีทีวี ส่วนทรูวิชั่นและช่องอื่นๆ เคยมีการเจรจากันแล้วแต่ไม่สำเร็จ ขณะที่ทางเทคนิคการส่งสัญญาณทางภาคพื้นดินอย่างเดียวอาจทำให้ช่องฟรีทีวี 3,5,9 มีภาพที่ไม่คมชัด จี เอ็ม เอ็ม ฯ จึงได้ปล่อยสัญญาณดาวเทียมคู่ขนานไปเพื่อให้ได้รับชมภาพชัดเจน แต่จะตั้งค่าสัญญาณดาวเทียมไว้เพื่อไม่ให้ส่งสัญญาณไปยังประเทศอื่นด้วย เพราะเกรงจะเป็นการผิดสัญญากับยูฟ่า จึงเป็นสาเหตุที่จอทีวีขึ้นสัญญาณมืดและมีตัวหนังสือขออภัย โดยสัญญาณที่ส่งจากบ.จี เอ็ม เอ็ม ฯ เป็นการส่งสัญญาณไม่ได้มีการตั้งรหัส เพราะรหัสนั้นแต่แต่ละช่องจะเป็นผู้ตั้งเอง ซึ่งข้อความขออภัยในทีวีที่จอมืดก็ เป็นข้อความของสถานีนั้นเองไม่ใช่ข้อความของทางแกรมมี่

นายเดียว ระบุด้วยว่า “ แกรมมี่ไม่ได้ระงับการส่งสัญญาณ แต่ระงับแค่เนื้อหาที่เป็นฟุตบอลยูโรเท่านั้น” เรื่องนี้แกรมมี่ได้เคยเจรจากับยูฟ่าแล้ว เพื่อขอให้ปล่อยสัญญาณเป็นกรณีพิเศษให้ได้ชมทุกช่องทางแล้ว แต่ยูฟ่าไม่อนุมัติ ขณะที่นายเดียว เบิกความยอมรับที่ทนายโจทก์ซักค้านด้วยว่า การดำเนินการถ่ายทอดสดบอลยูโรครั้งนี้ ได้ประโยชน์จากสปอนเซอร์ที่ได้จากลิขสิทธิ์ ค่าโฆษณา การขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท และการขยายฐานธุรกิจเครือข่ายดาวเทียมแกรมมี่ในอนาคต

ทั้งนี้ นายเดียว ยังได้นำเอกสารสัญญาที่ทำไว้กับยูฟ่า ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษมาแสดงให้ศาลเพื่อให้ฝ่ายโจทก์ได้ตรวจสอบแล้วฝ่ายโจทก์ ได้แปลสัญญาอ้างว่า ข้อตกลงกับยูฟ่าไม่มีส่วนไหนที่บังคับให้ส่งสัญญาณถ่ายทอดสดเฉพาะเสาอากาศ ขณะที่นายเดียว ได้ยืนยันว่า ยังคงยืนยันว่าในสัญญามีข้อบังคับ แต่สัญญาที่นำมาในวันนี้เป็นฉบับย่อ ไม่ใช่ฉบับเต็ม อย่างไรก็ดีจากการโต้แย้งของสองฝ่าย ศาลจึงแจ้งคู่ความว่าจะนำเอกสารภาษาอังกฤษแปลเองอีกครั้ง

ศาลยังได้สอบถามนายเดียวถึงผลการรับชมโทรทัศน์ในประเทศไทยเป็นอย่างไร ซึ่งนายเดียว ระบุว่า ได้สำรวจตลาดจากหน่วยงานที่เป็นสากาล คือบริษัท เอจีบี นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัดพบว่า มีผู้รับชมโทรทัศน์ทั้งหมด 22 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นระบบจานดาวเทียม 2 ล้านครัวเรือน ระบบเคเบิ้ล 2.8 ล้านครัวเรือน และระบบทรูวิชั่น 1.8 ล้านครัวเรือน ที่เหลือ 10 ล้านครัวเรือน เป็นเสาอากาศแบบก้างปลา

ศาลสอบถามอีกว่า หาก จีเอ็มเอ็ม ฯ ไม่ส่งสัญญาณผ่านฟรีทีวีช่อง 3,5,9 แล้วการเข้าถึงผู้ชมจะเป็นอย่างไร นายเดียว กล่าวว่า เนื่องจากยูฟ่า ทำการตกลงและกำหนดกลุ่มผู้ชมในประเทศไว้แล้ว จีเอ็มเอ็ม ฯจึงต้องร่วมกับทั้ง 3 ช่องเพื่อให้ได้กลุ่มผู้ชมตามที่กำหนด ซึ่งการร่วมถ่ายทอดสดได้มีการแจ้งสปอนเซอร์ด้วยว่าจะมีการถ่ายทอดผ่านช่องใด บ้าง ส่วนเรื่องการกำหนดรหัสเพื่อไม่ให้รับชมผ่านดาวเทียม ทางช่อง 3 ทราบและรู้อยู่ว่าต้องจอดำ

นายชำนาญ กล่าวว่า คดีนี้เป็นการตัดสินที่ยากมาก กระชั้นชิด เหมือนการถอดชนวนระเบิด เพราะฉะนั้นศาลต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อออกคำสั่งให้ดีที่สุด โดยคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานการรับชมรายการถ่ายทอดสดกีฬาที่มีลิขสิทธิ์ของ อุตสาหกรรมโทรทัศน์ในอนาคต

"ผลของคำสั่งในวันนี้ ไม่สำคัญเท่าอนาคต ซึ่งจะมีผลต่อการซื้อลิขสิทธิ์และสัญญาการถ่ายทอดสดรายการที่มีลิขสิทธิ์ใน อนาคต รัฐควรจะปกป้องผู้บริโภคอย่างไร ใครบ้างที่จะมีส่วนเกี่ยวข้อง การวินิจฉัยจะออกมาทำนองนี้ ยอมรับว่าเป็นการตัดสินที่ยากมาก"นายชำนาญกล่าว

ข้อมูลข่าวจาก นสพ.ผู้จัดการ นสพ.โพสต์ทูเดย์และนสพ.ฐานเศรษฐกิจ 27 มิถุนายน 2555

พิมพ์ อีเมล