ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหานี้มักคาดหวังในเรื่องการเปลี่ยนคืนสินค้า ทันที ถ้าเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิคส์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ราคาไม่สูงมากนัก ผู้ประกอบธุรกิจอาจมีนโยบายรับเปลี่ยนสินค้าให้โดยทันที แต่สำหรับกรณีของรถยนต์แล้ว โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบธุรกิจจะขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการซ่อมสินค้าที่ชำรุด บกพร่องให้ก่อน หากซ่อมแล้วอาการไม่หาย หรือเปลี่ยนอาการซ่อมใหม่ไปเรื่อย เรียกว่า ต้องซ่อมแล้วซ่อมอีก ก็จะมีการซื้อคืนสินค้าไป หรือที่เรียกว่ารับคืนรถและเปลี่ยนรถให้ใหม่
แนวทางแก้ไขปัญหา
หากท่านมีปัญหาเรื่องรถยนต์ชำรุดบกพร่อง (รถใหม่ป้ายแดง) ไม่ควรใช้วิธีพูดคุยกับช่างที่ศูนย์บริการอย่างเดียว
1. ควรทำหนังสือถึงบริษัท ผู้ผลิต สำนักงานใหญ่เป็นลายลักษณ์ โดยมีรายละเอียดเนื้อหาจดหมายระบุ
- ซื้อและได้รับรถยนต์ตั้งแต่วันที่เท่าไร ที่ไหน
- พบปัญหาชำรุดบกพร่องเมื่อไร อาการเป็นอย่างไรระบุให้ครบ และส่งเข้าตรวจสอบวันที่เท่าไร ที่ศูนย์บริการสาขาไหน ช่วยแจ้งว่าต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอย่างไร (ผู้บริโภคควรแจ้งให้ช่างระบุรายละเอียดของปัญหาและตรวจสอบให้ครบถ้วน พร้อมลายมือชื่อของผู้รับรถ ให้ขอหลักฐานดังกล่าวเก็บไว้ด้วย
2.เมื่อรถใหม่ ไม่ว่าจะเป็นป้ายแดง หรือใหม่ป้ายดำ เจอปัญหามีความชำรุดบกพร่องของตัวสินค้า ผู้บริโภค ควรให้ความยินยอม ให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการซ่อมโดยทันที โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมทั้งเก็บสำเนาหลักฐานรายการซ่อมไว้ด้วย
3. หากต้องใช้ระยะเวลาการซ่อมยาวนาน ขาดโอกาสในการใช้รถ ให้ผู้บริโภคเรียกร้องให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดรถให้ใช้ใน ระหว่างซ่อม หรืออาจเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้งานรถยนต์ในระหว่างซ่อมก็ได้ หรือผู้บริโภคอาจเรียกร้องความรับผิดชอบอื่นเพิ่มเติม เช่นขยายระยะเวลารับประกันก็อาจเรียกร้องได้เช่นกัน
4.หากเมื่อซ่อมไปแล้วความเสียหายหรือความชำรุดบกพร่องของสินค้าไม่ทุเลาหรือ หายไป หรือหนักขึ้นกว่าเดิม ผู้บริโภคสามารถเรียกร้องให้ผู้ประกอบธุรกิจเปลี่ยนรถคันใหม่ให้ได้
ซึ่งลำดับขั้นการเรียกร้องตามกรอบกฎหมายจะเป็นตามลักษณะที่ว่ามา
อย่าลืมนะครับ ร้องทุกข์หนึ่งครั้ง ดีกว่าบ่นพันครั้ง
ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 022483737