ศาลเมินคำค้านแกรมมี่เดินหน้าไต่สวนจอดำ

ศาลแพ่งเมินคำร้องค้านจีเอ็มเอ็มแซท เดินหน้าไต่สวนขอคุ้มครองชั่วคราวทีวีจอดำนัดพิจารณาต่อ27มิ.ย. เวลา 9.00 น. ห้อง 801

วันนี้ (26มิ.ย.) ศาลแพ่งรัชดา-  เวลา 15.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 711  ศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนฉุกเฉินคดีหมายเลขดำ ผบ.1841/2555 ที่ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกับพวก รวม 5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริโภค ร่วมเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องคดีผู้บริโภค ช่อง 3 ,ททบ.5,บริษัท อสมท และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท เป็นจำเลยที่ 1 - 4 เรื่องร่วมกันทำละเมิด และผิดสัญญา โดยขอให้ศาลไต่สวนเพื่อขอคุ้มครองฉุกเฉิน ให้จำเลยที่ 1 - 4 แพร่ภาพถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรด่วนที่สุดก่อนการแข่งขันจะสิ้นสุดในวันที่ 2 ก.ค.นี้

ศาลแพ่งได้พิเคราะห์คำร้องคัดค้านของทนายความบริษัทจีเอ็มเอ็ม จำเลยที่ 4 กรณียื่นคำร้องขอฉุกเฉินว่า คำฟ้องคดีนี้ไม่ใช่คดีผู้บริโภค ศาลจึงไม่มีอำนาจพิจารณาคดีว่า ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉินวันนี้ เพื่อกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ซึ่งมีเจตรมย์ในการคุ้มครองคู่ความ แตกต่างจากการคุ้มครองชั่วคราวในกรณีปกติ ซึ่งต้องกระทำเป็นการด่วน มิเช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายก่อนจะมีการวินิจฉัยชี้ขาด

คดีนี้โจทก์ทั้ง 5 ฟ้องจำเลยทั้ง 4 เป็นคดีผู้บริโภค ซึ่ง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค มีเจตรมย์ในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการพิจารณาคดีได้หากปฏิเสธการคุ้มครองสิทธิ์ย่อมเป็น การไม่ชอบ จึงให้ไต่สวนฉุกเฉินก่อนมีคำสั่ง

ส่วนคำร้องโต้แย้งว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีผู้บริโภคก็ไม่ได้มีบัญญัติให้ศาลรอการพิจารณาไว้ก่อน ศาลจึงมีอำนาจไต่สวน ซึ่งเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความ ไม่กระทบต่อกระบวนการพิจารณาคดีซึ่งจะมีต่อไปในภายภาคหน้า เพราะศาลแพ่งและศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ต่างก็เป็นศาลในระบบยุติธรรมด้วยกัน ย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนการพิจารณาของคู่ความในกรณีฉุกเฉินได้ แต่ให้ส่งคำร้องของจำเลยที่ 4 ไปยังประธานศาลฎีกา และประธานอุทธรณ์เพื่อวินิจฉัยต่อไป

ในส่วนที่โต้แย้งเกี่ยวกับอำนาจศาลปกครองให้โจทก์ทั้ง 5 ทำคำชี้แจ้งยื่นต่อศาลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันนี้ หากไม่ยื่นในกำหนดถือว่าไม่ติดใจ

ในกระบวนการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ 4 ปาก ประกอบด้วยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เบิกความสรุปว่า ทำงานในองค์กรผู้บริโภค ได้รับการร้องเรียนมากจากประชาชนจำนวนมากที่ใช้จานดาวเทียมได้รับความเสีย หาย เนื่องจากจำเลยทั้ง 4 ร่วมมือกันไม่ปล่อยสัญญาณการการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ ยุโรป หรือ ยูโร 2012 ทำให้ไม่สามารถรับชมผ่านช่อง 3 , 5 และ 9 ได้ตามปกติ ก่อนหน้านี้ที่บ้านใช้เสาอากาศโทรทัศน์ชนิดก้างปลาตามปกติ แต่ไม่สามารถรับชมภาพและเสียงได้คมชัด เนื่องจากบ้านมีคอนโดมิเนียมตั้งขวางสัญญาณ จึงตัดสินใจซื้อจากดาวเทียม PSI เพื่อรับชมช่องฟรีทีวีทั่วไป กระทั่งมีการแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2012 จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันไม่ปล่อยสัญญาณ ทำให้ไม่สามารถรับชมได้ อีกทั้งไม่มีรายการทดแทน การกระทำของจำเลยทั้ง 4 เป็นการละเมิดโจทก์ ที่ควรได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค จำเลยทั้ง 4 ใช่เล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจในการกีดกันไม่ให้โจทก์ได้รับชม หากใครอยากรับชมการแข่งขันต้องซื้อกล่องราคากล่องรับสัญญาณของจำเลยที่ 4 ราคากล่องละ 1,590 บาท ทำให้ผู้บริโภคราว 11 ล้านครัวเรือนที่ไม่ได้รับชม หากผู้บริโภคทั้ง 11 ล้านครัวเรือนต้องการรับชมต้องเสียเงินซื้อกล่อง คิดเป็นเงินสูงถึง 15,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาเคยได้ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วแต่ไม่สามารถแก้ไข ปัญหาได้ จึงมาพึ่งบารมีศาล ส่วนที่จำเลยอ้างว่าต้องทำตามลิขสิทธิ์นั้น แต่ตนเห็นว่าเป็นการรุกรานสิทธิของผู้บริโภค

จากนั้น นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการด้านกฎหมาย และอดีตเลขาธิการ คตส. พยานปากที่ 2 เบิกความระบุ ว่า หลังเกิดเหตุกรณีทีวีจอดำขึ้น มีนักวิชาการ สอบถามถึงปัญหาดังกล่าว ตนจึงเขียนบทความขึ้นรวม 3 ฉบับ ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงติดต่อมาขอคำปรึกษาในแง่มุมกฎหมาย เห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 47 วรรคแรกที่ระบุว่าคลื่นวิทยุ โทรทัศน์ เป็นทรัพยากรของชาติ ให้ใช้ประโยชน์สาธารณะ โดยมี กสทช. ตั้งขึ้นมาเพื่อกำกับดูแล ทำหน้าที่กำหนดเป้าหมาย การจัดการ ว่าคลื่นที่ได้รับการอนุญาตต้องเผยแพร่ความรู้ วัฒนธรรม เป็นทีวีสาธารณะ สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นรูปแบบของทีวีการค้า มีรูปแบบการเข้าถึงเปลี่ยนแปลงไป เมื่อฟรีทีวีเอาสัญญาณยิงขึ้นดาวเทียม ประชาชนจึงหันไปซื้อจานดาวเทียม เนื่องจากภาพและเสียงมีความคมชัดกว่าเสาอากาศโทรทัศน์ชนิดก้างปลา กลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มจอดำ ส่วนอีกประเภทหนึ่งเป็นสมาชิกกับทีวีการค้า เช่น ทรูวิชั่น บอกรับสมาชิกให้บริการเป็นแพ็กเกจ จากสัญญาที่ บ.จีเอ็มเอ็ม มีถึง อสมท. ว่าการถ่ายทอดฟุตบอล ยูโร นั้น ให้ตัดสัญญาณที่ผ่านเครือข่ายของ ทรูวิชั่น ที่มีผู้รับชมประมาณ 1 ล้านกว่าครัวเรือน และจานดาวเทียมที่มีผู้รับชมกว่า 8 ล้านครัวเรือน เมื่อทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 , 5 , 9 จะถ่ายทอดสดต้องเข้ารหัสดูการแข่งขัน ทำให้ประชาชนที่ใช้จานดาวเทียม และ ทรูฯ ไม่สามารถเข้าถึงการรับชมได้ ราว 11 ล้านครัวเรือน

นายแก้วสรร เบิกความด้วยว่า กรณีดังกล่าว หากตนมีหน้าที่ในการตัดสินใจแทน ช่อง 3 , 5 และ 9 จะไม่รับถ่ายทอดฟุตบอลจาก บ.จีเอ็มเอ็ม เพราะทั้งช่อง 3 , 5 และ 9 ได้รับสัมปทานจากรัฐไป ย่อมมีหน้าที่เผยแพร่ให้ปวงชนชาวไทยได้รับชม ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดหน้าที่ จะเอาสัญญาเรื่องลิขสิทธิ์ มาลบล้างกฎหมายเรื่องสิทธิของปวงชนชาวไทยตามกฎหมายมหาชนไม่ได้ ต้องเปิดให้ผู้บริโภคเข้าถึง ทีวีสาธารณะเหล่านี้ได้รับการถ่ายทอดทางคลื่น จะมาจำกัดสิทธิคนไทยว่าต้องชมทางเสาอากาศเท่านั้นไม่ได้ ถือเป็นการลิดรอนสิทธิ ในต่างประเทศมีการออกกฎหมายกำหนดให้การถ่ายทอดเข้าถึงประชาชน ต้องอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หาก บ.จีเอ็มเอ็ม จะหาสมาชิกในเวลารวดเร็วจริงๆ การกระทำเช่นนี้ทำไม่ถูก เมื่อคุณได้รับประโยชน์จากทั้งฟรีทีวี สปอนเซอร์จนคุ้ม และขายกล่องรับสัญญาณ เป็นการบีบเอาสมาชิก ทำให้ประชาชนที่ดูโทรทัศน์โดยปกติมาตลอดกลับมาถูกปฏิบัติเช่นนี้ ประเทศที่เจริญแล้วเขาไม่ทำกัน

ด้าน นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค เบิกความว่า ถึงกรณีแกรมมี่เป็นห่วงการส่งสัญญาณดาวเทียมจะไม่สามารถจำกัดพื้นที่ และเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ข้อเท็จจริงการส่งสัญญาณดาวเทียมสามารถจำกัดพื้นที่ได้ด้วยการเข้ารหัส เมื่อปลายทางไม่ทราบรหัสก็ไม่สามารถเข้าชมได้ ดังนั้นกรณีที่จะจำกัดพื้นที่ให้ครอบคลุมอยู่ในประเทศไทยสามารถทำได้ด้วยการ เข้ารหัส แม้ในต่างประเทศจะมีการสุ่มเข้ารหัสเองก็มีความน่าจะเป็นไปได้น้อย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีผู้มาร้องเรียนศาลปกครองให้ กสทช. คุ้มครองกรณีจอดำด้วย แต่ทางศาลปกครองได้ยกคำร้องการไต่สวนฉุกเฉิน

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.ฝ่ายกิจการกระจายเสียง ฯ เบิกความว่า กฎหมายให้ กสทช. กำกับดูแปลคลื่นความถี่ รวมไปถึงบังคับผู้ประกอบกิจการดาวเทียมด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีกฎเกณฑ์ในการบังคับใช้ผู้ประกอบการกิจการดาวเทียม โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการร่างยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งนี้ยอมรับว่าไม่เคยให้ช่อง 3 , 5 และ 9 แก้ไขปัญหาจอดำ แต่เคยมีมติให้ทางช่อง 3 , 5 และ 9 อย่าเลือกปฏิบัติ

ภายหลังไต่สวนพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว 4 ปาก  เมื่อเวลา 18.00 น. ขณะที่บ.จีเอ็มเอ็ม ฯ จำเลยที่ 4 ยังมีพยานที่จะเบิกความอีก 2 ท่าน ดังนั้นศาลจึงให้เลื่อนไต่สวนพยานจำเลยในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ 09.00 น. ห้อง 801

ภาพประกอบจาก นสพ.ฐานเศรษฐกิจ

พิมพ์ อีเมล