ชาวบ้านซอยร่วมฤดี ลุ้นคำพิพากษา หลังศาลปกครองพิจารณาคดีเสร็จสิ้น

 ศาลปกครองกลาง พิจารณาคดีซอยร่วมฤดีกว้างไม่ถึง 10 เมตรตลอดแนวนัดแรกแล้ว หลังให้กรมที่ดินวัดซอยร่วมฤดี พบกว้างไม่ถึง 10 เมตรตลอดแนวจริง หลังการแถลงของผู้ฟ้องคดีและผู้ร้องสอดเสร็จสิ้น  ตุลาการศาลปกครองสรุปข้อเท็จจริงและจะประชุมองค์คณะเพื่อพิจารณาและมีคำ พิพากษาคดีต่อไป  


Consumerthai - วันที่ 27 กันยายน  2554 เวลา 10.30 น. ศาลปกครองกลาง  ห้องพิจารณาคดีที่ 8 ตุลาการศาลปกครอง ออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก  ในคดีหมายเลขดำที่ 1475/2551 คดีระหว่าง นายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ ผู้ฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 24 ราย ได้มอบอำนาจให้นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความอาสา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยื่นฟ้องผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 กับ บริษัทลาภประทาน จำกัด ผู้ร้องสอดที่ 1 และ บริษัท ทับทิมทร จำกัด ผู้ร้องสอดที่ 2 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551  

เพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งระงับการก่อสร้างอาคารทั้งสอง ที่ขัดแย้งกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ.2535) ข้อ 2 ของพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ในส่วนที่สูงเกิน 23 เมตร หรือพื้นที่เกิน 10,000 ตารางเมตรไว้ชั่วคราว ซึ่งตามกฎหมายระบุหากจะก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่จะต้องมีเขตทางสาธารณประโยชน์ ที่มีความกว้างไม่น้อยกว่า 10 เมตร ตลอดแนวและระงับการออกใบอนุญาตเปิดใช้อาคารไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมี คำพิพากษาหรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
 
ตุลาการศาลปกครองออกนั่งพิจารณาคดี ระหว่างการพิจารณาคดี ตุลาการศาลปกครอง ได้สรุปข้อเท็จจริงแห่งคดีให้คู่กรณีที่มาศาลได้รับฟัง และ อนุญาตให้คู่กรณีที่มาศาล แถลงข้อมูลเพิ่มเติมต่อศาล โดยนายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ ผู้ฟ้องคดีที่ 1 เป็นตัวแทนผู้ฟ้องคดีทั้ง 24 ราย ยื่นคำแถลงเป็นหนังสือและแถลงด้วยวาจาโดยสรุปต่อตุลาการศาลปกครองว่า  จากสภาพความเป็นจริงและผลการรังวัดสอบความกว้างของถนนซอยร่วมฤดีจำนวนหลาย ครั้ง  จากสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครและกรมที่ดิน มีผลสอดคล้องกันว่า เขตความกว้างในถนนซอยร่วมฤดีมีความกว้างไม่ถึง 10 เมตรตลอดแนว  ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่สำนักงานเขตปทุมวันออกหนังสือรับรองเขตทางให้กับผู้ร้องสอด  ดังนั้นการออกหนังสือราชการรับรองเขตทางของสำนักงานเขตปทุมวันจึงไม่ถูก ต้อง
 
ขณะที่ นายสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ กรรมการของผู้ร้องสอดทั้ง สอง กล่าวคำแถลงเป็นวาจาโดยสรุปต่อตุลาการศาลปกครองว่า บริษัทผู้ร้องสอดทั้งสองได้ดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างโดยยึดถือตามเอกสารของ ทางราชการเกี่ยวกับความกว้างของถนนซอยร่วมฤดีและซอยร่วมฤดี 2 ขณะนี้ได้ก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการมาแล้วประมาณ 15 เดือนเศษ จึงขอยืนยันในความถูกต้องทุกขั้นตอน
 
หลัง การแถลงของผู้ฟ้องคดีและผู้ร้องสอดเสร็จสิ้น  ตุลาการศาลปกครองสรุปข้อเท็จจริงและจะประชุมองค์คณะเพื่อพิจารณาและมีคำ พิพากษาคดีนี้ต่อไป
 
ภายหลังเมื่อศาลนั่งพิจารณาคดีนัดแรกเสร็จสิ้น  นายเฉลิมพงษ์ กลับดี ทนายความอาสามูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ขอยืนยันในข้อเท็จจริงของถนนในซอยร่วมฤดีที่กว้างไม่ถึง 10 เมตรตลอดแนว ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพมหานคร  สำนักงานโยธา  กรมที่ดิน หรือการเดินเผชิญสืบของศาลปกครองกลาง ซึ่งแต่ละครั้งผลที่ได้คือ ถนนซอยร่วมฤดีมีความกว้างไม่ถึง 10 เมตรตลอดแนว
 
“ประเด็น ที่สังคมต้องติดตามในคำตัดสินของศาลปกครองกลางคือ การที่กทม.อนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารสูงและมีขนาดใหญ่บนถนนที่มีความกว้าง ไม่ถึง 10 เมตรตลอดแนวได้นั้นขัดกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ.2535) ในข้อ 2 ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 หรือไม่ เนื่องจากกฎหมายนี้มีเจตนารมณ์ เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร จึงต้องออกกฎกระทรวงกำหนดความกว้างเขตทางสำหรับการก่อสร้างอาคารสูงดังกล่าว ขึ้น” นายเฉลิมพงษ์ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กรมที่ดินวัดซอยร่วมฤดีตามคำสั่งศาลปกครอง พบกว้างไม่ถึง 10 เมตรตลอดแนวจริง

พิมพ์ อีเมล