คลังรับปากแก้ปัญหาหนี้เกษตรกรพันธ์ใหม่

เกษตรกรพันธ์ใหม่เข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีกระทรวงการคลังขอให้จำหน่ายหนี้เงินกู้ต้นเงินส่วนที่ ธ.ก.ส.ลดหนี้ให้แก่เกษตรกรเป็นหนี้สูญ และอนุมัติให้ ธ.ก.ส.ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกร กระทรวงการคลังรับปากจะดำเนินการแก้ปัญหาโดยเร็ว

 

 

วันนี้ (1 มี.ค.54) เกษตรกรภายใต้โครงการนิคมเกษตรกรรมเพื่อการส่งออกร่วมกับภาคเอกชน เข้ายื่นหนังสือต่อนายกร  จาติกวานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่ออนุมัติการ จำหน่ายหนี้เงินกู้ต้นเงินส่วนที่ ธ.ก.ส.ลดหนี้ให้แก่เกษตรกรเป็นหนี้สูญ โดยขอยกเว้นการดำเนินการตามกฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 186 (พ.ศ.2534) และขออนุมัติให้ ธ.ก.ส.ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่เกษตรกรตามมติของบอร์ด โดยมีนายจิรายุ ตุลยานนท์ ในฐานะคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รับหนังสือแทน พร้อมกล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหาและจะเร่งดำเนินการ ด้านชาวบ้านหลังได้ฟังดังนั้นจึงเป็นที่พอใจ ยอมสลายการชุมนุม

 

อนึ่งโครงการนิคมเกษตรกรรมเพื่อการส่งออกร่วมกับภาคเอกชน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี (กลุ่มเกษตรกรทำสวนบ้านสิงห์ หมู่บ้านดอนโพ ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี) ซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการในช่วงปี พ.ศ.2530 ผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยมีวัตถุประสงค์ให้คนหนุ่ม-สาว ผู้จบการศึกษาทางการเกษตรประกอบอาชีพการเกษตรตรงกับที่ได้ศึกษามา เพื่อเป็นตัวอย่างกับเกษตรกรในพื้นที่ เป็นผู้นำเกษตรกรรุ่นใหม่ ส่งเสริมให้มีการผลิตแบบครบวงจร

 

ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จในอาชีพเกษตรกรตามที่รัฐบาลในขณะนั้นประชาสัมพันธ์ จึงได้เข้าสมัครสอบและผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ โดยเกษตรกรแต่ละรายต้องทำสัญญากู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส. เพื่อมาลงทุนตามข้อกำหนดของโครงการ และต้องดำเนินการเพาะปลูกตามที่โครงการกำหนดไว้ แต่ต้องประสบปัญหาขาดทุนมาตั้งแต่ต้นเนื่องจากที่ดิน สภาพแวดล้อม พันธุ์พืชที่โครงการจัดนั้น ไม่เอื้อหรือให้ผลผลิตได้ตามที่กำหนดไว้ รวมทั้งถูกบริษัทเอกชนที่ร่วมโครงการละทิ้งโครงการ แม้กลุ่มเกษตรกรเหล่านี้จะดำเนินการแก้ไขปัญหาตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระหนี้สินเรื้อรังกับ ธ.ก.ส. มาจนถึงปัจจุบัน

ต่อมาคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มีการประชุมครั้งที่ 9/2553 เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2553 เพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบในแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรดังกล่าว ดังนี้

(1) ให้ความเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. นำเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาอนุมัติการจำหน่ายหนี้เงินกู้ต้นเงินส่วนที่ ธ.ก.ส. ลดหนี้ให้แก่เกษตรกรซึ่งเป็นลูกค้าดังกล่าวเป็นหนี้สูญ รวมทั้งโครงการอื่นที่จำเป็นต้องจำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญด้วย

(2) อนุมัติให้ ธ.ก.ส.ปรับปรุงโครงสร้างนี้ ด้วยการลดต้นเงินบางส่วน ลดดอกเบี้ยค้างทั้งหมด และงดดอกเบี้ยใหม่ โดยให้มีต้นเงินคงเหลือรายละ 130,000 บาท แล้วนำมาขยายระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 9 ปีตามศักยภาพของลูกค้า และงดดอกเบี้ยที่เกิดใหม่ โดยใช้หลักประกันจำนองเดิม และอนุญาตให้ลูกค้าไถ่ถอนที่ดินหลักประกันจำนองได้เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้น

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ในการประชุมดังกล่าวได้ให้ความเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.เสนอกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยให้ขออนุมัติเป็นหลักการให้ ธ.ก.ส. ถือใช้เป็นแนวทางดังกล่าวในการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินสำหรับโครงการอื่นที่จำเป็นต้องจำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญด้วย

ต่อมาในวันที่ 1 มีนาคม 2554 ธ.ก.ส.ได้มีหนังสือบันทึก เลขที่ ฝกม/17875 เรียนปลัดกระทรวงการคลัง เรื่องขออนุมัติจำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชี โครงการนิคมเกษตรกรรมเพื่อการส่งออกร่วมกับภาคเอกชน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีให้กับเกษตรกรจำนวน 78 ราย เลขรับหนังสือเลขที่ 4806

ทางเกษตรกรของโครงการฯที่ได้รับความเดือดร้อน จึงเข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติในแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรดังกล่าวตามแนวทางที่คณะกรรมการ ธ.ก.ส.ได้ให้ความเห็นชอบโดยเร็ว  เพื่อที่เกษตรกรจักได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับ ธ.ก.ส.และชำระหนี้คืนแก่ ธ.ก.ส.ตามลำดับต่อไป และขอให้พิจารณาอนุมัติเป็นหลักการให้ ธ.ก.ส.ถือใช้แนวทางดังกล่าวในการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินสำหรับโครงการอื่นที่จำเป็นต้องจำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญด้วย

 

พิมพ์ อีเมล