กลุ่มคนรักหลักฯ โต้รัฐมนตรี พูดกฎหมายที่ถูกแก้ไขไม่หมด ที่ต้องแก้ไม่แก้ ที่ไม่จำเป็นกลับสอดไส้ อย่างนี้ อย่าแก้ ดีกว่า

เขียนโดย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.). จำนวนผู้ชม: 2156

health security lover group 001 web

กลุ่มคนรักหลักประกัน โต้รัฐมนตรีสาธารณสุข ที่อ้างว่าประเด็นที่แก้ไขเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรัฐมนตรียกเพียงประเด็นเรื่องการไม่ร่วมจ่ายซึ่งในกฎหมายไม่ได้มีการแก้ไข นั่นหมายว่า ไม่ได้ยกเลิกการร่วมจ่าย ซึ่งเข้าทางการขึ้นทะเบียนคนจน เพราะต้องการให้ประชาชนชนร่วมจ่ายเมื่อมีการไปใช้บริการและยกเว้นเฉพาะคนที่ขึ้นทะเบียนคนจน ซึ่งเรื่องบริการสุขภาพ มีแนวคิดคนรวยช่วยคนจน คนไม่ป่วยช่วยคนป่วย คนชั้นกลางก็มีสิทธิล้มละลายได้ถ้าต้องจ่ายค่ารักษาบริการสุขภาพด้วยตนเอง ขัดต่อหลักสิทธิประชาชนขั้นพื้นฐานในการเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นสำหรับทุกคน 

ประเด็นสำคัญที่นอกเหนือจากนี้ที่รัฐมนตรีไม่ได้พูดก็คือการแก้ไขกฎหมายที่ปรับโครงสร้างสัดส่วนของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและคณะกรรมการควบคุมคุณภาพมาตรฐานบริการสาธารณสุขซึ่งได้เพิ่มสัดส่วนในฝั่งของผู้ประกอบวิชาชีพมากขึ้นทั้งในสองคณะ ซึ่งปัจจุบันการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการทั้งสองคณะเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีสัดส่วนของภาคประชาชนเพียงห้าคนและเป็นเสียงข้างน้อยตลอดเวลา รวมถึงการแก้กฎหมายให้แยกเงินเดือนของบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งดูเหมือนจะดีและไม่ต้องกังวลกับบุคลากร แต่นั่นคือการกลับไปสู่การจ่ายเงินตามขนาดของโรงพยาบาลเหมือนก่อนมีระบบหลักประกันเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ทำให้ไม่เกิดการกระจายบุคคลากรที่เป็นธรรมต่อหน่วยบริการหรือโรงพยาบาล

ส่วนประเด็นที่สำคัญมากที่สุดที่รัฐมนตรีไม่ได้พูดถึงเลยก็คือ ขณะนี้มีข้อถกเถียงเรื่องอำนาจของสปสช.ในการจัดซื้อยาราคาแพงสำหรับโครงการพิเศษเพียงร้อยละ ๔.๙ ของการจัดซื้อยาซึ่งสปสช. ได้มีการดำเนินการจัดซื้อยาจำเป็นราคาแพงเป็นระบบการจัดซื้อรวมซึ่งสามารถประหยัดงบประมาณในรอบ 10 ปีได้เกือบ 50,000 ล้านบาท แต่การแก้กฎหมาย กลับไม่ถูกพูดถึง ว่า จะให้ดำเนินการต่อเนื่องหรือไม่อย่างไร แต่การแก้ไขครั้งนี้ หากไม่แก้กฎหมายให้สามารถจัดซื้อได้ จะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร รัฐบาลจะนำเงินปี ละ 5,000 ล้านบาทมาจากไหน ท่ามกลางทรัพยากรที่จำกัดของประเทศ หรือนี่คือหลุมในการร่วมจ่ายของประชาชนในการใช้ยา

การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ทำให้ระบบการบริหารจัดการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับประชาชน น่าเสียดายที่ไม่ได้ยินจากปากของรัฐมนตรีเลยในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

พิมพ์