มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ออกแถลงการณ์ เรื่องเงินสนับสนุนจากสสส.

00000แถลงการณ์มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เรื่องเงินสนับสนุนจากสสส.


 

 

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงการณ์ได้รับการสนับสนุนการฟื้นฟูการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติพฤษภาคม ๒๕๕๓ งบประมาณจำนวน ๒ ล้านบาทจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ( สสส.) ให้สามารถกลับมาปฏิบัติงานสาธารณประโยชน์ในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคได้

 

๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ อาคารสำนักงานของมูลนิธิ ฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้อาคารศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันบริเวณอนุสาวรีย์ชัย และลุกลามมายังอาคารสำนักงานของมูลนิธิ ฯ ซึ่งอยู่ติดกัน ทำให้ทรัพย์สินและอุปกรณ์สำนักงานของมูลนิธิฯ เสียหายเกือบทั้งหมด จนไม่สามารถทำงานได้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ฯ ในการคุ้มครองสิทธิอันพึงมีพึงได้ของผู้บริโภค ทั้งการให้บริการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน การจัดทำนิตยสารฉลาดซื้อ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นจริงให้ผู้บริโภคใช้สิทธิในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการผลักดันนโยบายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค

 

หลังจากเกิดเหตุการณ์ การทำงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงได้ทำจดหมายถึงสสส. เพื่อขอขยายเวลาในการจัดทำโครงการจำนวน ๒ โครงการที่ได้รับการสนับสนุน อันได้แก่ ๑)โครงการส่งเสริมสนับสนุนสิทธิผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ภายใต้แผนงานอุบัติเหตุ ระยะเวลา ๒ ปี ตั้งแต่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๒-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และ ๒) โครงการปฏิบัติการองค์การอิสระผู้บริโภค (จำลอง) ภายใต้แผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ ระยะเวลา ๒ ปี ตั้งแต่ กันยายน ๒๕๕๒-สิงหาคม ๒๕๕๔ ต่อ สสส. เนื่องจากไม่สามารถทำโครงการให้แล้วเสร็จได้ตามเวลาที่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากวิกฤตที่เกิดขึ้น และได้จัดทำข้อเสนอการฟื้นฟูการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ งบประมาณจำนวน ๒ ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้มูลนิธิฯสามารถฟื้นฟูและปฏิบัติงานสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้องด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้โดยเร็ว และเพื่อให้มูลนิธิฯ สามารถดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสสส. ในขณะนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์และกำหนดเวลาของโครงการ

 

ก่อนหน้านี้มูลนิธิ ฯ ได้แจ้งขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ เช่น สำนักงานเขตราชเทวี แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเพราะอ้างว่า มูลนิธิ ฯ ไม่ใช่ผู้เสียหายจากไฟไหม้ที่เป็นผู้ค้าขาย นอกจากนี้มูลนิธิยังได้รับความช่วยเหลือด้วยการบริจาคเงิน และอุปกรณ์สำนักงาน จากประชาชน ผู้บริโภค และองค์กรต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหพันธ์ผู้บริโภคสากล (Consumers International) ซึ่งเป็นเครือข่ายขององค์กรผู้บริโภค ที่มีสมาชิกมากกว่า ๒๕๐ องค์กรใน ๑๑๕ ประเทศ ทั่วโลก จนทำให้มูลนิธิ ฯ สามารถกลับมาให้บริการประชาชน และปฏิบัติงานในสำนักงานเดิมได้เมื่อประมาณ เดือนธันวาคม ๒๕๕๓

 

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ทำงานพิทักษ์สิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ สามารถยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ ในหลายกรณีที่สำคัญ เช่น

 

๑. ผู้บริโภคใช้สิทธิอันพึงมีพึงได้ของตนเองเพิ่มขึ้น โดยมูลนิธิ ฯ มีศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค ให้บริการคำแนะนำ ให้ผู้บริโภคแก้ไขปัญหาด้วยตนเองไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ ราย ในแต่ละปี สนับสนุนการใช้สิทธิ การเจรจาไกล่เกลี่ย ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย ไม่น้อยกว่า ๑,๕๐๐-๒,๐๐๐ รายต่อปี การจัดเวทีสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ ให้แก่ผู้บริโภคในวงกว้าง พัฒนาการรวมกลุ่มของผู้บริโภคเพื่อยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น กรณีการตรวจสอบการคุ้มครองผู้บริโภคของหน่วยงานจากปัญหาแคลิฟอเนียร์ฟิตเนสว้าว การบังคับใช้กฎหมายมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม การยกระดับการคุ้มครองสิทธิประชาชนในการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ สร้างความตื่นตัวเรื่องความไม่เป็นธรรมด้านการเงินการธนาคาร เป็นต้น

 

๒. การใช้ข้อมูลเพื่อการเลือกซื้อสินค้า ผ่านนิตยสารฉลาดซื้อ เป็นนิตยสารรายเดือน ตีพิมพ์มาแล้วมากกว่า ๒๐ ปี เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ผลการทดสอบที่เป็นจริงให้กับผู้บริโภค ในการใช้เป็นข้อมูลเลือกซื้อสินค้า เพราะเชื่อว่า พฤติกรรมการซื้อแต่ละครั้ง คือการลงคะแนนให้กับตัวแบบทางเศรษฐกิจ รวมทั้งแบบแผนการผลิตสินค้าแบบใดแบบหนึ่ง และเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจสังคมให้เอื้อต่อประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ โดยรูปแบบการผลิตและการบริโภคคำนึงถึงประโยชน์ผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม

 

๓. พัฒนานโยบายด้านการคุ้มครองผู้บริโภค อาทิ เรื่องหลักประกันสุขภาพมาตรฐานเดียว องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค (มาตรา 61 ตามรัฐธรรมนูญ) นโยบายด้านพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นธรรม ความมั่นคงและความปลอดภัยด้านอาหาร และผลกระทบของเขตการค้าเสรีต่อผู้บริโภค

 

๔. สนับสนุนและพัฒนาศักยภาพองค์กรผู้บริโภค ให้มีการทำแผนคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัด และจัดตั้งศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

 

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์เกือบ ๒๐ ปี ต้องการให้ทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค การหลอก การโกง ที่ยังมีทุกวัน และต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน นอกจากนี้มูลนิธิฯยังได้แสดงบทบาทด้านสังคมอื่นๆ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ประชาชนใช้สิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ การแสดงออกทางความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ส่งเสริมการใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงและหลักธรรมภิบาลในการพัฒนาสังคม มูลนิธิฯ หวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่มีบุคคลและกลุ่มใดนำไปผูกโยงกับการเมือง

 

 

 

มูลนิธิฯ จึงขอเรียนให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกัน.

 

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

 

๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖

พิมพ์ อีเมล