สช.เสนอออกกฎคุมขายยาขาดจริยธรรม

สช.เสนอยุทธศาสตร์คุมขายยาขาดจริยธรรม เผยพฤติกรรมอาจารย์แพทย์สอนเทคนิคนักศึกษาแพทย์ เพิ่มยอดขาย บ.ยา แถมมี บ.ยา จ่ายเงินเพื่อเพิ่มยอดยา

ในการเสวนาเรื่อง "การขับเคลื่อนหลักเกณฑ์จริยธรรมด้านการส่งเสริมการขายยา เพื่อลดผลกระทบต่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสุขภาพของผู้ป่วย" จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ผศ.ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานสร้างกลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา กล่าวว่า ปัญหาส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรมทั้งที่ผิดกฎหมายและไม่ผิดกฎหมาย แต่เบี่ยงเบนต่อผิดจริยธรรม เพราะกฎหมายในประเทศไทยยังควบคุมไม่ถึง โดยในช่วงที่ผ่านมา ปี 2548 มีมูลค่าราคาขายยาปลีกสูงถึง 186,330 ล้านบาท และมีแนวโน้มว่า เมื่อสิ้นปี 2552 นี้ อาจมากกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 42 ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นกว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เมื่อดูค่าใช้จ่ายด้านยาในระบบประกันสุขภาพ พบว่า ในปี 2551 ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและระบบประกันสังคม มีค่ายาอยู่ที่ 18,000 ล้านบาท ขณะที่ระบบสวัสดิการข้าราชการมีค่ายาสูงถึง 60,000 ล้านบาท ซึ่งค่ายาที่แตกต่างนี้น่าจะมีผลมาจากการขายยาที่ไม่ถูกต้อง

ผศ.ดร.นิยดา กล่าวว่า สาเหตุการใช้ยาเกินความจำเป็น ส่วนหนึ่งเกิดจากกลยุทธ์การส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ จากการศึกษาค่าใช้จ่ายในการโฆษณายาของไทย โดยเฉพาะการโฆษณายาสู่ผู้บริโภคในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2549-2551 มีมูลค่าสูงกว่า 2,500 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ปัญหาส่งเสริมการขายเมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายสามารถแยก ได้ 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มธุรกิจยาข้ามชาติที่มักมีบุคลากรทางการแพทย์เป็นเป้าหมาย 2. ธุรกิจยาในประเทศ มีประชาชนทั่วไปเป็นเป้าหมายผ่านสื่อวิทยุ ดังนั้น ทางเครือข่ายด้านยาจึงนำประเด็นเหล่านี้เข้าสู่เวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ในวันที่ 16 ธ.ค. 2552 นี้

ด้าน นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ไม่ว่าทั้งปากกา ทิชชู แก้วน้ำ ทีวี คอมพิวเตอร์ การสนับสนุนการประชุมวิชาการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการรับของจากบริษัทยาไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาว่ากี่บาท แต่อยู่ที่เราได้รับการสนับสนุนจากบริษัทยาแบบเกื้อกูลไปตลอดชีวิต ขณะที่แพทย์บางส่วนก็มองว่าเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ที่ดี เป็นเยื่อใยที่ดีและยอมรับได้ ทำให้มีการขอรับการสนับสนุนจากบริษัทยา

กรุงเทพธุรกิจ 15/12/52

พิมพ์ อีเมล