พลังงานส่งสัญญาณตรึงราคาก๊าซ"แอลพีจี"ภาคขนส่งยาว

นาย อารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานงาน "ฉลากเบอร์ 5 รักษ์โลก รักษ์เรา" ในพิธีลงนามความร่วมมือผลิตภัณฑ์ใหม่เบอร์ 5 ระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าว่า จะไม่ปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคขนส่งในช่วงนี้แน่นอน จากปัจจุบันอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เพราะต้องการติดตามสถานการณ์ราคาแอลพีจีในตลาดโลกเป็นหลัก หลังจากได้รับรายงานว่าแอลพีจีตลาดโลกปรับราคาลง จากก่อนหน้าได้ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

"ตอบไม่ได้ว่าภายในเดือนกันยายนนี้หรือเมื่อใดจะปรับราคาแอลพีจีขนส่ง เพราะต้องติดตามราคาแอลพีจีในตลาดโลกก่อน" นายอารักษ์กล่าว

 

สำหรับนโยบายตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือน 18.13 บาทต่อ กก. ถึงสิ้นปี 2555 นั้น ตามนโยบายกระทรวง คือ ต้นปี 2556 แอลพีจีครัวเรือนจะขยับราคาและเป็นราคาเดียวกันทั้งระบบ คือ รวมถึงแอลพีจีขนส่งและอุตสาหกรรมด้วย แต่เวลานั้นจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือกลุ่มครัวเรือนที่เดือดร้อน เพราะมีรายได้น้อยเท่านั้น แต่ยังไม่สรุปว่าจะใช้มาตรการใด

 

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าราคาแอลพีจีครัวเรือนที่ปรับขึ้นไม่สูง เช่น ถังก๊าซหุงต้ม 15 กก. ราคาประมาณ 300 บาทต่อถัง จะเพิ่มเป็น 400 บาทต่อถัง หากร้านอาหารตามสั่งใช้ 1 ถัง ทำอาหารได้ 400 จาน ต้นทุนจะขึ้นเพียงจานละ 25 สตางค์เท่านั้น ดังนั้น ร้านค้าใดที่ขึ้นแพงกว่านั้นก็ไม่ควรซื้อรับประทาน

 

นายอารักษ์กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะทำงานทั้งภาครัฐและนักวิชาการ ศึกษาความเหมาะสมของราคาน้ำมันดีเซล จากปัจจุบันตรึงไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ว่า จะศึกษาเสร็จเร็วแน่นอน เพราะมีรายละเอียดส่วนหนึ่งแล้ว จึงไม่สามารถระบุว่าราคาดีเซลที่เหมาะสมควรเป็นเท่าใด

 

นายอารักษ์กล่าวว่า สำหรับโครงการฉลากเบอร์ 5 ปีนี้ กฟผ.ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการปรับปรุงประสิทธิภาพอุปกรณ์ไฟฟ้าใหม่ 3 ผลิตภัณฑ์คือ หลอดแอลอีดี ตู้แช่แสดงสินค้า และเครื่องซักผ้า ขณะเดียวกันยังมีอุปกรณ์ไฟฟ้าได้การติดฉลากเบอร์ 5 ใหม่ 2 ผลิตภัณฑ์ คือ เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า และพัดลมระบายอากาศ โดยโครงการฉลากเบอร์ 5 ดำเนินมาแล้ว 19 ปี สามารถปรับเงินจากการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงได้ถึง 4.8 หมื่นล้าน คิดเป็นปริมาณไฟฟ้า 4.6 พันเมกะวัตต์

ข้อมูลจาก...มติชน วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

พิมพ์ อีเมล