ข่าว/บทความรถโดยสาร

ครั้งต่อไปที่ขึ้นรถโดยสาร ผมจะถามคนขับรถว่ามีประกันภัยไหม?

590606 boonlert
จากกรณีที่รถโดยสารสองชั้นของบริษัท อินทราทัวร์ ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำข้างทาง บริเวณ จ.อ่างทอง เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมากนั้น

บุญเลิศ มงคลเสริม หนึ่งในผู้โดยสารรถคันดังกล่าว เล่าว่า เขาซื้อตั๋วรถโดยสารที่อาเขตเชียงใหม่เพื่อจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ก่อนจะมาขายของที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่อุบัติเหตุในวันนั้น ทำให้ศีรษะของเขาถูกกระแทก ซี่โครงขวาหัก รวมถึงยังได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ขวา และข้อเท้าซ้ายเคล็ดจนต้องใส่เฝือกอยู่เป็นเดือน

“ตอนแรกผมนอนที่โรงพยาบาลไชโยอยู่ ๓๖ ชั่วโมง ผมถามหมอว่าเป็นอะไร หมอบอกว่าไม่เป็นอะไร แค่ฟกช้ำดำเขียว แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ได้ หายใจไปแล้วเจ็บมาก เพราะซีกขวาร้าวทั้งซีก ซึ่งผมมีประกันอุบัติเหตุอยู่ เลยขอทำเรื่องย้ายไปโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล กรุงเทพฯ แทน”
590606 boonlert2

บุญเลิศ บอกว่า เขารักษาตัวที่โรงพยาบาลเซ็นทรัลฯ อยู่ ๘ วัน และหมอแจ้งว่าซี่โครงหัก ๓ ซี่ คือบริเวณซี่ที่ ๓, ๔ และ ๕

“หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ตัวแทนของบริษัทอินทราทัวร์มาหา บอกเราว่าไม่ต้องกลัว เขาจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นให้ท่านละ ๑ แสนบาท โดยไม่ต้องใช้สิทธิอื่นเลย แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้เห็นตัวแทนจากบริษัทฯ อีกเลย”

ผู้ประสบเหตุรถโดยสารคันดังกล่าว เล่าว่า เขามีค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้นกว่า ๘๐,๐๐๐ บาท แต่ทางบริษัทฯ แจ้งว่าจ่ายให้ได้แค่ ๕๐,๐๐๐ บาท ทำให้ทางโรงพยาบาลเซ็นทรัลฯ ต้องตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น วอล์กเกอร์ (ที่ช่วยเดิน) ออกหมด ซึ่งเขาก็ต้องเซ็นรับสภาพหนี้ส่วนต่าง ๑๔,๒๐๗ บาท จากยอดค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดกว่า ๖๐,๐๐๐ บาท

“พอเราโทรไปก็เงียบ ไม่มีติดต่อกลับมา จนตอนนี้ผู้ประสบเหตุได้รวมตัวกัน และมีตัวแทนจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเข้ามาช่วยเหลือ”

อุบัติเหตุของอินทราทัวร์ในครั้งนี้ นอกจากบริษัทฯ แทบจะไม่เยียวยาผู้เสียหายแล้ว บริษัทประกันภัยยังปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอีกด้วย เนื่องจากว่าเป็นรถที่สวมทะเบียน

บุญเลิศ บอกว่า บริษัทอินทราทัวร์ควรจริงใจกับลูกค้า อย่างที่สโลแกนของบริษัทฯ โฆษณาไว้ว่า ‘อินทราทัวร์ ท่องเที่ยวทั่วทิศ ใช้มิตรคู่ใจ’
“ถามว่าแล้วใครจะไปใช้บริการอีก คุณไม่ซื่อสัตย์กับอาชีพของคุณ คุณปล่อยปละละเลยพวกเราแล้วให้ไปเจอกันที่ชั้นศาลแบบนั้นเหรอ” บุญเลิศตั้งคำถาม
ส่วนอาการบาดเจ็บของบุญเลิศนั้น แม้จะผ่านมานานกว่า ๖ เดือน แต่เขาก็บอกว่า ร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิมโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะนั่ง นอน เดิน หรือหายใจ เช่น หูข้างขวาก็ไม่ค่อยได้ยินเสียง หรือแขนขวาก็ยกของหนักมากไม่ได้ เวลาหายใจแรงๆ ก็ยังเจ็บ เพราะข้างในมันช้ำ

“ผมไม่รู้ว่าต้องรักษาตัวอีกนานแค่ไหน แต่หมอบอกว่าอย่างเร็วที่สุดคือ ๖ เดือน ช้าสุดคือ ๒ ปี ซึ่งหมอก็ไม่แน่ใจว่าจะหายเป็นปกติหรือไม่  ผมถูกตัดขาดการเหลียวแลจากทุกฝ่าย ไม่มีใครรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ต้องให้แฟนหาเลี้ยง เพราะนอนอยู่บนเตียงมา ๕ เดือน ตอนนี้ผมขี่ไม่ได้แม้กระทั่งจักรยาน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ต้องเอาของมาจำนำเพื่อยังชีพตัวเอง เพราะทำมาหากินไม่ได้ อะไรขายได้ก็ต้องขายเอาไว้กินไว้ใช้”

590606 boonlertbus1

บุญเลิศ เล่าว่า ทุกวันนี้ เขาไม่กล้านั่งรถทัวร์แล้ว แต่หันมาโดยสารรถไฟ หรือไม่ก็ขับรถเอง

“ครั้งต่อไปที่จะขึ้นรถโดยสาร ผมจะถามคนขับรถว่ามีประกันภัยไหม จดทะเบียนถูกต้องหรือเปล่า คุณจะพาเราไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพหรือไม่ เพราะเราฝากชีวิตไว้กับคุณแล้ว มันเหมือนผมตายแล้วและฟื้นขึ้นมาใหม่ ชีวิตของเรามันอยู่ที่ความรับผิดชอบของคนขับรถด้วย” บุญเลิศทิ้งท้าย

อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าของกรณีนี้ บริษัท ขนส่ง จำกัด ในฐานะผู้ให้สัมปทานเส้นทางของรถร่วมบริการ รับที่จะเยียวยาความเสียหายให้กับผู้ประสบเหตุ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องของผู้เสียหาย เช่น ใบรับรองความเห็นจากแพทย์ ฯลฯ

ไม่เพียงเท่านั้น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับเพจ รถโดยสารปลอดภัย (Safe Thai Bus www.facebook.com/SafeThaibus) ยังรณรงค์ให้รถโดยสารที่มีความสูงตั้งแต่ ๓.๖ เมตรขึ้นไปทุกคันต้องผ่านการทดสอบความลาดเอียง พร้อมติดสติ๊กเกอร์บอกให้ผู้โดยสารทราบ เพื่อเป็นหนึ่งในมาตรการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร
590606 boonlert3

 

พิมพ์ อีเมล