ข่าว/บทความรถโดยสาร

ผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตจากรถโดยสารสาธารณะส่วนใหญ่ยังไม่รู้สิทธิ

เขียนโดย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.). จำนวนผู้ชม: 4677

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายผู้บริโภค รณรงค์ให้ความรู้สิทธิกรณีบาดเจ็บ-เสียชีวิตจากรถ โดยสารสาธารณะ เผยแต่ละปีมีนับพันรายและผู้บริโภคไม่รู้สิทธิได้รับการเยียวยา ด้านเอแบคโพลล์เผยประชาชนกว่าครึ่งไม่รู้รัฐบาลประกาศปัญหาอุบัติเหตุเป็น วาระแห่งชาติ


13 พ.ย. – ร.ร.ทีเคพาเลซ นนทบุรี มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และตัวแทนเครือข่ายองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน จัดงานรำลึกวันเหยื่อโลกว่าด้วยอุบัติเหตุทางท้องถนน 21 พฤศจิกายน ด้วยการแห่โลงศพจำลอง พร้อมยืนไว้อาลัยแก่เหยื่อที่ประสบอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะ

จากนั้นมีการสัมมนา “สภาผู้บริโภคเพื่อการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ" ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน โดยนายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุที่เกิดจากรถโดยสารสาธารณะในประเทศแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บ-เสีย ชีวิตนับพันราย ซึ่งผลสำรวจเมื่อเดือนมีนาคม 2552-เดือนกรกฎาคม 2553 พบมีผู้บาดเจ็บจากรถโดยสารสาธารณะ จำนวน 1,988 ราย เสียชีวิต 151 ราย เป็นผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตจากรถประจำทางปรับอากาศมากที่สุด รองลงมาคือ รถเมล์ รถนำเที่ยว และรถรับส่งพนักงาน สาเหตุหลักมาจากคนขับรถประมาท คุณภาพมาตรฐานของรถต่ำ และสภาพถนนที่ไม่ได้มาตรฐาน

นายอิฐบูรณ์กล่าวต่อว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นมักเป็นความสูญเสียของผู้บริโภค เมื่อเกิดเหตุมักจะไม่ได้รับการเยียวยาที่ดี ส่วนใหญ่เมื่อบาดเจ็บจะได้รับค่าชดเชยรักษาพยาบาลเพียง 50,000 บาท จากบริษัทประกันภัย เสียชีวิต 100,000 บาท ค่าเสียหายหลังจากนั้นก็จะตกเป็นภาระผู้บริโภคที่ไม่ทราบว่าตนมีสิทธิเรียก ร้องอะไรได้อีกเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบทำงานอย่างบูรณาการให้สมกับที่ รัฐบาลได้ประกาศให้เรื่องอุบัติเหตุเป็นวาระแห่งชาติด้วย ขณะที่ตัวผู้บริโภคควรตื่นตัวปกป้องสิทธิตนเอง เมื่อถูกละเมิดสิทธิในการรับค่าชดใช้เยียวยาที่รวดเร็ว เป็นธรรม และทั่วถึง และหากผู้บริโภคประสบปัญหาสามารถติดต่อให้มูลนิธิฯ ช่วยเหลือได้เช่นกัน

ด้านนายเทวินทร์ อินทรจำนง อาจารย์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) กล่าวว่า เอแบคได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศกว่า 1,200 ตัวอย่าง ในโอกาสครบรอบ 1 ปี วาระแห่งชาติว่าด้วยอุบัติเหตุทางถนนระหว่างวันที่ 30 กันยายน-7 ตุลาคม 2553 พบว่าร้อยละ 68.1 ไม่ทราบว่าปัญหาอุบัติเหตุทางถนนรัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ร้อยละ 19 ทราบแล้ว และร้อยละ 59.7 นึกไม่ออกว่าเรื่องที่รัฐบาลได้ดำเนินการเป็นรูปธรรมเพื่อลดการตายบนท้องถนน ในรอบปีที่ผ่านมาว่าเป็นเรื่องใด โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะที่ทำให้มีการบาดเจ็บ เสียชีวิต กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่ามาจากตัวผู้ขับขี่มากที่สุดถึงร้อยละ 93.8 จากการขับรถประมาท ขับเร็ว เมาแล้วขับ รองลงมาคือ ตัวรถไม่ได้มาตรฐาน สภาพถนนไม่ดี นอกจากนี้ วิธีช่วยสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 74 ระบุว่า ใช้วิธีดื่มไม่ขับ รองลงมาคือ สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัด ง่วงไม่ขับ ไม่ขับเร็ว ส่วนเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการ 3 อันดับแรกเพื่อลดปัญหาการเสียชีวิตให้ได้ครึ่งหนึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้าคือ การป้องกันคนเมาแล้วขับ การลดความเร็วบนท้องถนน และการสวมหมวกนิรภัย.


 

 

 

 






















พิมพ์